ผบ.ทร.เยี่ยมอำลาทัพเรือภาคที่ 3 ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ชื่นชมกำลังพลปกป้องอธิปไตยของชาติ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 406 ครั้ง

วันนี้ (30 ส.ค.66) เวลา 10.20 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วย นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วย ในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 3 ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยมี พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรง และหน่วยขึ้นการบังคับบัญชาทางยุทธการ ทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ พร้อมทั้งมอบโอวาทแก่กำลังพล โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวชื่นชมกำลังพลทัพเรือภาคที่ 3 ทุกนาย ที่ได้ทำภารกิจของหน่วยกำลังรบในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งนับได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องรักษาเอกราชอธิปไตยของชาติ การเสริมสร้างความมั่นคง และการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจที่ได้รับมอบจากรัฐบาล จนทำให้กองทัพเรือเป็นที่ยอมรับและศรัทธาของพี่น้องประชาชน รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบมาโดยตลอด และขอให้กำลังพลทุกนายตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ดังเช่นที่ผ่านมา ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความวิริยะอุตสาหะ ถือประโยชน์ของกองทัพเรือเป็นที่ตั้ง เพื่อร่วมกันเสริมสร้างและพัฒนากองทัพเรือให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงสืบไป รวมทั้งได้กล่าวอำลาในโอกาสเกษียณอายุราชการ

ทั้งนี้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ลำดับที่ 56 ของกองทัพเรือ เคยไปดำรงตำแหน่งที่สำคัญหลายตำแหน่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 โดยขณะดำรงตำแหน่ง ได้ดำเนินการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจสกัดกั้นผู้อพยพหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 จังหวัดระนอง เพื่อป้องกันและสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบทางทะเล สามารถป้องกันและจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และเหตุไม่สงบภายในประเทศเมียนมา

รวมถึงได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้ โดยศููนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 จังหวัดสตูล เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทางทะเลทุกรูปแบบ ตรวจสอบการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองทางทะเลโดยผิดกฎหมาย ที่อาจนำพาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ามาภายในประเทศ การอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ได้อำนวยการและสั่งการกำลังเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและปราบปราม การกระทำผิดกฎหมาย การลักลอบขนสินค้าและยาเสพติด ที่เข้าประเทศทางทะเล โดยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ขณะที่ดำรงตำแหน่ง ได้อำนวยการจับกุมยาเสพติดประเภทเฮโรอีนและไอซ์ น้ำหนักรวมกว่า 800 กิโลกรัม ในพื้นที่ชายแดนทางทะเลไทยมาเลเซีย จังหวัดสตูล คิดเป็นมูลค่าภายในประเทศมากกว่า 500 ล้านบาท เป็นการจับครั้งใหญ่ที่สุดด้านฝั่งทะเลอันดามัน และเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ได้อำนวยการจับกุมขบวนการลักลอบขนบุหรี่หลีกเลี่ยงภาษี ในพื้นที่จังหวัดตรัง คิดเป็นเงินค่าปรับมากกว่า 600 ล้านบาท และจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจควบคุมเรือสำราญและกีฬา ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรด้านฝั่งทะเลอันดามันเพื่อการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และสนับสนุนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลและจังหวัดภูเก็ต ตามโครงการ Phuket Sandbox

โดยตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก เชิงชายฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายหลัก 9 ด้าน โดยมุ่งเน้นนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือท่านที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงของกองทัพเรือ และเพื่อให้กำลังพลทุกนายได้ร่วมแรงร่วมใจขับเคลื่อนนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือที่กำหนดไว้ คือเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ 

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 406 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน