มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2788 ครั้ง
กรมราชทัณฑ์ ผนึก สดช. ร่วมพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขัง ผ่านโครงการ “พัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล” จัดทำแพลตฟอร์มเฉพาะ สอน 10 หลักสูตรออนไลน์ เตรียมความพร้อมผู้ต้องขังเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างรอบด้าน เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งงาน และการปรับตัวสู่สังคมหลังพ้นโทษ ไม่หวนไปกระทำผิดซ้ำ
วันนี้ (10 มี.ค.64) เวลา 14.00 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล” ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรมราชทัณฑ์
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ระหว่างกรมราชทัณฑ์ และ สดช. ในครั้งนี้ เกิดจากความต้องการที่จะพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขัง ให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล อันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งงาน และปรับตัวเข้าสู่สังคมภายหลังพ้นโทษ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยเฉพาะการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Digital Manpower) ให้ก้าวทันเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจและสังคมในทุกมิติ ซึ่งรวมถึงในกลุ่มผู้ต้องขังเองด้วย ที่ต้องได้รับความเท่าเทียมในการพัฒนาเช่นเดียวกัน
“กลุ่มผู้ต้องขัง นับเป็นกลุ่มประชากรอีกกลุ่ม ที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะการพัฒนาด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่นอกจากจะเป็นการสร้างการรับรู้และพัฒนาทักษะความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระดับพื้นฐานให้กับผู้ต้องขังแล้ว ในผู้ต้องขังบางกลุ่มที่มีทักษะอยู่แล้ว แต่ต้องหยุดชะงักไประหว่างถูกคุมขัง ก็สมควรได้รับการยกระดับสมรรถนะ เพื่อการเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นเองได้ จึงเป็นที่มาของ “โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล” ซึ่งนับว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญของการสร้างงาน สร้างอาชีพของกรมราชทัณฑ์ ให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก” นายอายุตม์ กล่าว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการฯ ดังกล่าว จะเปิดสอนทั้งสิ้น 10 หลักสูตร ประกอบไปด้วย พื้นฐานการเป็นนักขายของออนไลน์, พื้นฐานการเป็นนักเขียนบทความและนักรีวิวสินค้าออนไลน์, การตัดต่อเสียง/ภาพ และการทำ VTR, การวาดสติ๊กเกอร์ Line, การสร้างอินโฟกราฟิก, การตลาดออนไลน์ด้วยการสร้าง Line OA, การตลาดออนไลน์ Facebook และการโฆษณา Facebook Ad, การตลาดออนไลน์ทางด้าน Google, การสร้างรายได้จาก Youtuber และ การเปิดร้านค้าและการขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งผู้ต้องขังที่ร่วมโครงการฯ จะได้รับการอบรมไม่น้อยกว่า 1 หลักสูตร หลักสูตรละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง ผ่านแพลตฟอร์มต้นแบบสำหรับการเรียนแบบออนไลน์ระบบปิด ที่รองรับการใช้งานของผู้ต้องขังในเรือนจำ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์โดยเฉพาะ โดยทั้ง 10 หลักสูตร ล้วนเป็นหลักสูตรที่เน้นการเพิ่มศักยภาพผู้ต้องขัง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งงาน สามารถนำไปปฏิบัติงานได้จริง และเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและปรับตัวเข้าสู่สังคมภายหลังพ้นโทษ และยังช่วยให้สังคมได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ภาพลักษณ์ที่มีต่อผู้พ้นโทษ ทำให้ผู้พ้นโทษสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2788 ครั้ง