มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 76 ครั้ง
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 8 จังหวัดนำร่อง รุกลงพื้นที่เชิญชวนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ร่วมออกกำลังกายป้องกันภาวะดื้ออินซูลิน ด้วยแอปพลิชันเมต้ารีเวิร์ส

วันนี้ (11 พ.ย.68) ที่โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นพ.กรกฤช ลิ้มสมมุติ รองอธิบดีกรม สบส. เป็นประธานเปิด “การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการดำเนินงานส่งเสริมการออกกำลังกายป้องกันภาวะดื้ออินซูลินด้วยแอปพลิเคชัน เมต้ารีเวิร์ส ในอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)” โดยมีผู้รับผิดชอบงานสุขภาพภาคประชาชนระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล อสม. จากแต่ละภาค และสภากาชาดไทยเข้าร่วม
นพ.กรกฤช กล่าวว่า สถานการณ์การเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ของประชาชนทั่วโลก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะโรคเบาหวานซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรก ซึ่งประเทศไทยเองก็มีผู้ป่วยมากกว่า 6,500,000 คน หรือประมาณ 1 ใน 10 ของประชากรไทย ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขอย่างมหาศาล ดังนั้น เพื่อบรรเทา และป้องกันการเกิดโรคเบาหวานในอนาคตจึงต้องสร้างเสริม องค์ความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้กับประชาชน ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่ใกล้ตัวและเห็นผลได้อย่างชัดเจนก็คือการออกกำลังกาย โดยกรม สบส.ได้ร่วมกับสภากาชาดไทย บูรณาการกิจกรรมเชิญชวนพี่น้อง อสม.ให้ร่วมลงพื้นที่ชุมชน ชักชวนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นประชาชน อายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เกิน 23 หรือเคยติดโรคโควิด 19 มาร่วมกิจกรรมออกกำลังกาย ด้วยแอปพลิเคชันเมต้ารีเวิร์ส (Meta Reverse) ซึ่งจะช่วยวางแผนการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับกลุ่มเสี่ยง โดยเริ่มพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน นนทบุรี สระแก้ว ภูเก็ต ปัตตานี ขอนแก่น และ นครราชสีมา และการจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อส่งเสริมให้พี่น้อง อสม. สามารถใช้แอปพลิเคชันเมต้ารีเวิร์ส รวมทั้ง แนะนำกลุ่มเสี่ยงเบาหวานให้ออกกำลังกาย โดยมีผู้แทนจากศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพ 7 แห่ง ผู้รับผิดชอบงานสุขภาพภาคประชาชนระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และ อสม. ในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 8 จังหวัด 32 พื้นที่ และบุคลากรจากสภากาชาดไทย เข้าร่วม

นพ.กรกฤช กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาวะดื้ออินซูลิน อาจเกิดด้วยกรรมพันธุ์ หรือปัจจัยเสี่ยงจากความอ้วน ทำให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดี จนเกิดการเผาผลาญที่ผิดปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดสูง การที่พี่น้อง อสม. ร่วมลงพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ ในการออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยอย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องติดกันอย่างน้อย 12 สัปดาห์ หรือการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ย่อมช่วยให้ประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ จนสามารถบรรเทาภาวการณ์ดื้ออินซูลินได้ กรม สบส. ขอขอบคุณทุกพื้นที่ ที่เห็นความสำคัญและให้ความสนใจเข้าร่วมดำเนินงานส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อป้องกันภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งพื้นที่เป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ ในวันนี้ เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างชุมชนที่มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 76 ครั้ง



