สื่อมวลชนไทยจับมือเวียดนามใช้เอไอรับมือเฟคนิวส์

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 140 ครั้ง

สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ย้ำความร่วมมือกับสมาคมนักข่าวเวียดนาม รับมือเฟคนิวส์และเรียนรู้การใช้เอไอเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เพื่อความเข้าใจอันดีของประชาชนทั้ง ประเทศ

การเยือนประเทศเวียดนามของคณะสื่อมวลชนไทย นายนคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหารสื่อมวลชนไทย มี นายชวรงค์ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาพันธ์, น.ส. น. รินี เรืองหนู รองประธานคนที่ 1, นายอนันต์ นิลมานนท์ รองประธานคนที่ 4, นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการ, น.ส.ปิยสุดา จันทรสุข เหรัญญิก และ นายกฤษตินนิลมานนท์ เจ้าหน้าที่สมาพันธ์ฯ ได้เข้าร่วมหารือกระชับความสัมพันธ์กับคณะผู้บริหารสมาคมนักข่าวเวียดนาม นำโดย นายเลย์ก๊วก มินห์ นายกสมาคมฯ และผู้บริหารอีก 6 คน ณ ห้องรับรอง อาคารสมาคมนักข่าวเวียดนาม กรุงฮานอย

นายเลย์ ก๊วก มินห์ นายกสมาคมนักข่าวเวียดนาม กล่าวต้อนรับว่า สมาคมนักข่าวเวียดนาม มีความยินดีที่ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้ต้อนรับในการนำสื่อมวลชนไทยมาร่วมแข่งขันฟุตซอลฉลองครบรอบ 100 ปี สื่อมวลชนเวียดนาม เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมที่เชื่อมความสัมพันธ์ได้ดี ไม่ว่าผลการแข่งขันออกมาอย่างไรแต่ความสัมพันธ์ของสื่อมวลชนเวียดนามและไทย ยังมีความแน่นแฟ้นอยู่เสมอ

พร้อมกันนี้ นายเลย์ก๊วก มินห์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของสื่อมวลชนเวียดนามในปัจจุบันว่า ภายหลังมีการปรับโครงสร้างการบริหารประเทศ องค์กรสื่อมวลชนในแต่ละจังหวัดก็มีการยุบรวม และลดจำนวนบุคลากรลง ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ต้องเผชิญกับความท้าทายของเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะเอไอที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกสื่อสาร และมีเฟคนิวส์เผยแพร่มากขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ทางสื่อมวลชนเวียดนามก็มีการเรียนรู้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารต่าง ๆ ให้ทันยุคสมัย การไปเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสื่อมวลชนไทยที่ผ่านมา ช่วยสร้างความเข้าใจอันดี จึงอยากให้มีความร่วมมือกันในการเสนอข่าวอาชญากรรมข้ามชาติด้วย เพื่อช่วยป้องกันให้กับประชาชนทั้ง 2 ชาติ การมาเยือนของคณะสื่อมวลชนไทยครั้งนี้ขอต้อนรับด้วยมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน

นายนคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า “ขอบคุณในการต้อนรับอย่างดียิ่งของสมาคมนักข่าวเวียดนาม สื่อมวลชนไทยและเวียดนามมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากว่า 30 ปี มีการแลกเปลี่ยนผู้สื่อข่าวและเผยแพร่ข่าวสารที่สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ การแข่งขันฟุตซอลที่ผ่านมา สื่อมวลชนไทยสายกีฬาให้ความสนใจมาก และขอเชิญสื่อมวลชนเวียดนามไปแข่งขันที่ประเทศไทยในครั้งต่อไป และขอขอบคุณสมาคมนักข่าวเวียดนามที่ส่งภาพไปประกวดในการประกวดภาพข่าวอาเซียน 2025 ที่สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัด สำหรับเรื่องของเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะเอไอที่เข้ามามีบทบาทในวงการสื่อมวลชนนั้น ที่ประเทศไทยก็มีเช่นกัน รวมทั้งเฟคนิวส์ สื่อมวลชนจึงมีการเรียนรู้และรักษามาตรฐานในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นความร่วมมือที่ต้องเดินหน้ากันต่อไป”

ต่อจากนั้น นายเลย์ ก๊วก มินห์ ได้กล่าวถึงการประชุมกรรมการบริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย ในเดือนเมษายน 2569 เป็นโอกาสดีที่จะได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องสถานการณ์สื่อในปัจจุบัน ที่จะต้องให้ความสำคัญในการจัดการกับปัญหาที่สื่อกำลังประสบอยู่ และการป้องกันเฟคนิวส์ รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่องการเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยสื่อมวลชนในอาเซียนต้องช่วยกันนำเสนอข่าวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์และสแกมเมอร์ที่ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ สื่อมวลชนต้องช่วยกันเสนอข่าวให้ประชาชนรับรู้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ประเด็นนี้ทางนายนครได้กล่าวสนับสนุน ให้มีการพูดคุยกันในการประชุมกรรมการบริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียนปีหน้า เพื่อให้สื่อมวลชนในอาเซียนมีบทบาทช่วยป้องกันปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่

ด้าน นายชวรงค์ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ และที่ปรึกษาสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เรื่องการใช้เอไอ และเฟคนิวส์ เป็นปัญหาที่ประเทศไทยเตรียมการรับมือไว้สูง นอกจากมีการส่งเสริมให้สื่อนำเอไอมาใช้ในการผลิตสื่อมากขึ้น ทุกองค์กรมีการฝึกอบรม เรียนรู้ และใช้เอไอให้มีประโยชน์ มีการฝึกอบรมที่มีทั้งการออกแบบ นำผู้เชี่ยวชาญไทยมาอบรมและองค์กรต่างชาติ เช่น กูเกิ้ล มาร่วมด้วย อย่างการใช้เอไอมีการสอนให้ใช้เอไอมาตรวจสอบเฟคนิวส์ด้วย ปีหน้าก็จะเชิญสื่อมวลชนเวียดนามไปชมการใช้เอไอแก้ปัญหาของไทยด้วย ในการเผชิญปัญหาดังกล่าว สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวเวียดนาม จะมีความร่วมมือต่อเนื่องกันต่อไป เพื่อความเข้าใจอันดีของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ส่วนการประชุมกรรมการบริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียนปีหน้า ควรเสนอให้เชิญสมาคมนักข่าวติมอร์เลสเตที่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ก่อนจะรับเข้าเป็นสมาชิกต่อไป”

สำหรับการไปกระชับความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนเวียดนาม ของคณะสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย.68 ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรได้แก่ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด และ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน)

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 140 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน