มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1294 ครั้ง
ชาวบ้าน ต.น้ำรึม จ.ตาก ยื่นหนังสือถึงสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย-ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล-สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะแห่งหนึ่ง หลังพบข้อพิรุธคนนอกพื้นที่ทำแบบสอบถามตัวเลขเสียงไม่ตรงกับจำนวนชาวบ้านในพื้นที่ โวย มติไฟเขียวก่อสร้างโรงไฟฟ้า ส่อพิรุธ หากทำเสร็จนิเวศน์พัง
นางศรีไพร ฮอมเบอร์ แกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าพลังงานขยะแห่งหนึ่ง ใน ต.น้ำรึม อ.เมืองตาก พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบกว่าครึ่งร้อย รวมตัวเรียกร้องความเป็นธรรม ที่ สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมนำหนังสือเข้ายื่นที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล โดยเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ว่า มีการผ่านความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่จริงหรือไม่ เนื่องจากสงสัยว่า ดำเนินการดังกล่าวซึ่งรับผิดชอบโดยสำนักงานส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ดังกล่าว อาจไม่เป็นไปอย่างถูกต้องและเที่ยงตรง
นางศรีไพร ในฐานะแกนนำกลุ่มต่อต้านฯ กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว แต่กลับมีผลออกมาแตกต่างจากความเป็นจริง ซึ่งตรวจสอบพบว่า การทำแบบสอบถามดังกล่าวเป็นลักษณะปิด มิได้แสดงข้อมูลบุคคลผู้ทำแบบสอบถาม ขณะที่ตัวเลขของผู้คัดค้านในพื้นที่มีจำนวนกว่า 400 คน แต่ปรากฏว่า ตัวเลขการแสดงความเห็นด้วยอยู่ที่กว่า 300 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงทั้งหมด จึงอยากให้มีการตรวจสอบว่า จำนวนคนดังกล่าวมาจากที่ใด นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า ชาวบ้านใน 2 ตำบล ซึ่งอยู่ในการดูแลขององค์กรบริหารส่วนตำบล ซึ่งอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างเช่นกัน มีผู้ลงเสียงคัดค้านรวมกว่า 2,000 คน แต่กลับไม่มีการนำข้อมูลดังกล่าวมาสรุป ซึ่งอาจเข้าข่ายไม่โปร่งใส
“โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว เคยอยู่ในการกำกับดูแลของเทศบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวไม่เกิดผลกระทบกับชาวบ้าน ชุมชนอาศัย และ เขตอนุรักษ์ แต่ท้ายที่สุดกลับมีการปรับเปลี่ยนสถานที่ตั้ง ไปอยู่ในพื้นที่ของเทศบาลอีกแห่ง ซึ่งจุดล่าสุดหากมีการก่อสร้าง ชาวบ้านกังวลว่าสิ่งปฏิกูลหรือสารเคมีต่างๆ เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม”
อย่างไรก็ตาม นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ก่อนชาวบ้านได้เดินทางไปร้องเรียนต่อยัง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมี นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้รับหนังสือ ทั้งนี้ ทางการได้ยืนยัน เร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะรู้ผลภายใน 30 วัน
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1294 ครั้ง