มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2120 ครั้ง
“เฉลิมชัย” รุกนโยบายอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ส่งเสริม “ไข่น้ำ-คาเวียร์เขียว” (Green Caviar) เป็นซูเปอร์ฟู้ด (Super Food) ดาวรุ่งสร้างอาชีพใหม่ให้เกษตรกรฝ่าวิกฤติโควิด-19 “อลงกรณ์” เร่งขับเคลื่อนจับมือ 5 คลัสเตอร์ สภาอุตสาหกรรม ผนึก “พาณิชย์-หอการค้า” ลุยตลาดโลก 6 ล้านล้านบาท
วันนี้ (23 ต.ค.64) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) เปิดเผยภายหลังกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ศักยภาพของไข่น้ำสำหรับเกษตรกรไทยและการส่งออก” ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดนโยบายอาหารแห่งอนาคต (Future Food Policy) เป็นหนึ่งในนโยบายหลักเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศ ตลอดห่วงโซ่เกษตรและอาหารเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลกในยุคนิวนอร์มอล (New Normal)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยภายใต้การขับเคลื่อนของ “กรกอ.” เดินหน้าส่งเสริมพืชเศรษฐกิจตัวใหม่คือผำหรือไข่ผำหรือไข่น้ำ (Wolffia) ซึ่งเป็นพืชน้ำล้ำค่ามีฉายาว่า “คาเวียร์เขียว” (Green Caviar)” ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นสุดยอดซูเปอร์ฟู้ด (SuperFood) ของอาหารแห่งอนาคต (Future Food) โดยสนับสนุนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
1. การวิจัยและพัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) และสวก.
2. การส่งเสริมการผลิต โดยกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมประมง สปก. วิสาหกิจชุมชน เกษตรแปลงใหญ่ และ เอสเอ็มอี.เกษตร
3. การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างแบรนด์ใน 5 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม
4. การตลาดออนไลน์และออฟไลน์ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศโดยกระทรวงพาณิชย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทยตั้งเป้าเจาะตลาดมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือ 6 ล้านล้านบาท

“ผำเป็นพืชวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมืองของไทยมาแต่โบราณกาล วันนี้กลายเป็นซูเปอร์ฟู้ดของโลกเพราะมีโภชนาการ (Nutrients) ครบถ้วนสูงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลกทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ โปรตีน ประกอบกับเป็นพืชน้ำทรงกลมขนาดจิ๋วจึงได้ฉายาว่า Green Caviar นับเป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มนโยบาย อาหารแห่งอนาคต (Future Food) ซึ่งแบ่งเป็น 4 กลุ่มได้แก่ 1. อาหารอินทรีย์ 2. อาหารเสริมสุขภาพ 3. อาหารทางการแพทย์ 4. อาหารนวัตกรรมใหม่
เราส่งเสริมสนับสนุนโดยร่วมมือกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้ 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมอาหาร และ เครื่องดื่ม 2. อุตสาหกรรมอาหารเสริม 3. อุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอาหารเสริม 4. อุตสาหกรรมยาและยาสัตว์ 5. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและบำรุงผิว
นับเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่มีอนาคตสามารถสร้างอาชีพใหม่ให้เกษตรกรฝ่าวิกฤติโควิด-19 เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ” นายอลงกรณ์ กล่าวในที่สุด

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2120 ครั้ง