โฆษกศาลฯ แจงปมให้ประกันหญิงขับ BMW ชนแม่ลูกเสียชีวิต 3 ศพ ติดกำไล EM ห้ามออกนอกประเทศ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 56 ครั้ง

โฆษกศาลฯ กางข้อกฎหมาย เหตุศาลลงโทษหญิงขับบีเอ็มชนเสียชีวิต 3 ศพ โดนโทษจำคุก 4 ปี 7 เดือน ปรับ 500 บาท เผยศาลลงโทษสูงเกินกึ่งหนึ่งที่กฎหมายกำหนดแถมเพิ่มโทษ แต่จำเลยรับสารภาพจึงเป็นเหตุลดโทษ แม้บรรเทาผลร้ายแต่ก็ไม่รอลงอาญา ก่อนให้ประกัน 150,000 บาท ติดกำไล EM ห้ามออกนอกประเทศ

วันนี้ (5 พ.ย.68) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยกรณีที่ศาลจังหวัดชุมพรมีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี 7 เดือน ปรับ 500 บาท หญิงวัย 30 ปี ผู้ขับรถ BMW พุ่งชนแม่ลูก 3 คนเสียชีวิต ซึ่งอาจจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการลงโทษของศาลว่า เบาไปหรือไม่นั้น จากการประสานข้อมูลจากศาลจังหวัดชุมพร จึงขอสรุปข้อเท็จจริงคดีนี้ได้ดังนี้

1. คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ โดยมีสามีและบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายทั้งสามเป็นโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมเรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 24,205,000 บาท

2. จำเลยและผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วม ตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งจำเลยจะเยียวยาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจำนวน 5,500,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ชำระแล้วจำนวน 300,000 บาท และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ชำระอีกจำนวน 200,000 บาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 5 ล้านบาทจะผ่อนชำระให้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 30,000 บาทเข้าบัญชีธนาคารของโจทก์ร่วม

3. คดีนี้ เดิมจำเลยให้การปฏิเสธบางข้อหาโดยอ้างว่าผู้ตายมีส่วนประมาทร่วม ต่อมาถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องของโจทก์

4. หลังเกิดเหตุบริษัทฟอลคอลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่จำเลยขับ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมแล้ว 4,500,000 บาท

5. คดีนี้ศาลจังหวัดชุมพร สั่งให้พนักงานคุมประพฤติกระทรวงยุติธรรม สืบเสาะและพินิจจำเลย (คือกระบวนการสืบค้นข้อมูลส่วนตัวของจำเลย เช่น ประวัติด้านต่าง ๆ รวมถึงประวัติด้านการศึกษา อาชีพ การประทำความผิด พฤติกรรมส่วนตัว การชดใช้เยียวยา ซึ่งจะสอบข้อมูลจากผู้เสียหายด้วย) เพื่อนำมาประกอบการทำคำพิพากษา

6. ศาลจังหวัดชุมพรมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2)(4) (8), 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 78 วรรคหนึ่ง, 157, 157/1 วรรคสองและวรรคห้า, 158/1 วรรคสอง, 160 วรรคหนึ่ง, 160 ตรี วรรคสี่ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 42 วรรคหนึ่ง, 64 ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104, 162

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน, ฐานเป็นผู้ขับขี่เสพเมทแอมเฟตามีนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฐานขับรถโดยประมาท, ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฐานขับรถในลักษณะที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น, ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 แต่ความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพเมทแอมเฟตามีนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นบทหนักมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 6 ปี โดยให้เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 ตรี/2 วรรคสองด้วย เป็นจำคุก 9 ปี, ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแล้วไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ให้จำคุก 2 เดือน, ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ให้ปรับ 1,000 บาท

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงจำคุก 4 ปี 6 เดือน, ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแล้วไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานตำรวจคงจำคุก 1 เดือน, ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตคงปรับ 500 บาท รวมจำคุก 4 ปี 7 เดือน และปรับ 500 บาท

พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้วเห็นว่าภายหลังเกิดเหตุจำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ร่วมแล้วเป็นเงิน 650,000 บาท แม้เป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหายที่โจทก์ร่วมได้รับ แต่การที่จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ร่วม 5,500,000 บาท ถือได้ว่าจำเลยได้พยายามบรรเทาความเสียหายให้แก่โจทก์ร่วม ซึ่งนับเป็นการรู้สำนึกในการกระทำผิด จึงได้นำมาประกอบการกำหนดโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว แต่การที่จำเลยขับรถด้วยความประมาท ใช้ความเร็วสูง ทั้งเป็นการขับในขณะเมาสุรากับมีสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนอยู่ในร่างกาย อันเป็นการขาดสำนึกและขาดความรับผิดชอบต่อผู้ร่วมใช้ถนน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตทำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตายถึง 3 คน ภายหลังเกิดเหตุจำเลยยังหลบหนี ไม่หยุดให้การช่วยเหลือพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียง พฤติการณ์แห่งคดีนับเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย ริบของกลางคือรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูหมายเลขทะเบียนศรีนครศรีธรรมราช

7. อนึ่ง ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 157/1 วรรคห้า กฎหมายกำหนดอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี

8. ภายหลังจากอ่านคำพิพากษาแล้ว เนื่องจากศาลลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษ จำเลยจึงใช้สิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งสอบถามโจทก์ร่วมแล้วไม่คัดค้านการขอให้ปล่อยชั่วคราวของจำเลย ศาลจังหวัดชุมพรจึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้ โดยให้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับติดตามตัว (EM) กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หากมีการเปลี่ยนหรือย้ายที่อยู่อาศัยต้องแจ้งให้ศาลทราบ และให้เรียกหลักประกันวงเงิน 150,000 บาท เมื่อมีการติดอุปกรณ์ EM และวางเงินตามจำนวนที่ศาลกำหนดแล้ว จำเลยจึงได้รับการปล่อยชั่วคราวไปในวันนี้เพื่อใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งการอุทธรณ์นั้นมิได้เป็นสิทธิเฉพาะในส่วนของจำเลยอย่างเดียว หากโจทก์หรือโจทก์ร่วมยังไม่เห็นด้วยกับผลคำพิพากษาก็สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ได้เช่นเดียวกัน

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 56 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน