พม. จับมือ สมาพันธ์เครือข่าย ฯ เดินหน้าพัฒนาครอบครัวไทยไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 116 ครั้ง

พม. จับมือ สมาพันธ์เครือข่าย ฯ เดินหน้าพัฒนาครอบครัวไทยไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า เปิดตัวแนวคิด “No E-cig Home: บ้านปลอดภัย ครอบครัวปลอดบุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ก.ค.68 ที่อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทระทรวงพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ ศ.เกียรติคุณ นพ.รณชัย คงสกนธ์ เลขาธิการ สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ร่วมแถลงข่าวพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการดำเนินการพัฒนาครอบครัวไทยไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

นายอนุกูล ปิดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สถาบันครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดประเภทใหม่ ๆ ได้แก่ ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมาในหลากหลายรูปแบบ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกระดับ อันส่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย เนื่องด้วยปัญหาบุหรี่ไฟฟ้ามีส่งผลกระทบต่อทั้งเด็ก เยาวชน และบุคคลในครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งมีพันธกิจที่สำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพคนและสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว จึงเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และเห็นความสำคัญขององค์กรเครือข่ายในการร่วมดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า จึงร่วมกับสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่จัดทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการดำเนินการพัฒนาครอบครัวไทยไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า และขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชน และประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ร่วมแสดงพลังทำให้พื้นที่ครอบครัวของตนเองกลายเป็นพื้นที่บ้านปลอดภัย ปราศจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายรูปแบบใหม่จากการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าและนิโคตินรูปแบบต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกซึ่งมุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชนโดยตรง สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนรุ่นใหม่อย่างรุนแรง และหากไม่เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง อาจกลายเป็นวิกฤตสุขภาพในอนาคตอันใกล้ บทบาทของสมาพันธ์ฯ จึงมีความสำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนงานป้องกันการเริ่มต้นสูบบุหรี่ในเด็กและเยาวชน โดยอาศัยกลยุทธ์หลากหลาย ทั้งการให้ความรู้ในสถานศึกษา การสร้างค่านิยมปลอดบุหรี่ในสังคม การเสริมพลังให้ครอบครัว ชุมชน และสถานบริการสุขภาพ ตลอดจนการสื่อสารเชิงรุก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยของยาสูบในทุกมิติ”

นางสาวแรมร้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวว่า สถานการณ์ครอบครัวไทยในปี 2567 ประเภทของครอบครัวไทยส่วนใหญ่เป็นประเภทครอบครัวเดี่ยว และมีจำนวนการจดทะเบียนสมรสลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับการจดทะเบียนหย่า ซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่น ๆ เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวไทย ด้วยปัญหาความรุนแรงจากยาเสพติดในรูปแบบใหม่ บุหรี่ไฟฟ้า ที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เห็นว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าต้องเริ่มต้นที่การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ สถาบันครอบครัว โดยมีการขับเคลื่อนกลไกการดำเนินงานด้านครอบครัวทั้งในระดับประเทศ ระดับจังหวัด และในระดับพื้นที่ รวมทั้งได้ร่วมกับกลไกภาคีเครือข่ายทั้งในการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะการร่วมมือกับสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาครอบครัวไทยให้ไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า การดำเนินการเสริมสร้างสถาบันครอบครัวของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นไปเพื่อมุ่งจดมุ่งหมายสูงสุด คือ ครอบครัวอบอุ่น สังคมเป็นสุข ปราศจากความรุนแรง

ศ.เกียรติคุณ นพ.รณชัย คงสกนธ์ เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดพบว่า ร้อยละ 23.7 ของครัวเรือนไทยยังคงมีการสูบบุหรี่ภายในบ้าน ส่งผลให้เด็กและเยาวชนไทยอย่างน้อยกว่า 5 ล้านคนได้รับควันบหรี่มือสองในบ้าน ซึ่งไม่เพียงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ยังเป็นการสร้าง ภาพจำ และ แบบอย่าง ของพฤติกรรมการสูบโดยไม่รู้ตัว เปิดโอกาสให้เด็กเลียนแบบ และเพิ่มความเสี่ยงในการก้าวเข้าสู่การใช้สารเสพติดในอนาคต การสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าในบ้าน ไม่ใช่แค่ปัญหาสุขภาพ แต่คือ ‘ความรุนแรงในครอบครัว’ เพราะสมาชิกในบ้าน มีโอกาสได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสอง ซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ การพัฒนาสมองและสุขภาพในระยะยาว

ด้วยเหตุนี้ สมาพันธ์เครือข่าย ฯ จึงผลักดันแนวคิด “No E-cig Home: บ้านปลอดภัย ครอบครัวปลอดบุหรี่ไฟฟ้า ให้เป็นกลไกหลักในการสร้างสภาพแวดล้อมปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในระดับครอบครัว โดยเน้นการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครอง และทุกคนในบ้าน เพื่อเป็นเกราะป้องกันด่านแรกในการดูแลสุขภาพกายและใจของคนไทยแนวคิดนี้ไม่เพียงเน้นการสร้าง ครอบครัวไร้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า แต่ยังรวมถึงการพูดคุยให้ความรู้กับลูกหลาน การสร้างบรรยากาศแห่งความเข้าใจและความปลอดภัยทางจิตใจ และการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใหญ่ในบ้าน เพราะ บ้านที่ปลอดภัย ไม่ใช่เพียงบ้านที่ไร้ควันบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า แต่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่นของทุกคนในครอบครัว ศ.นพ.รณชัย กล่าว

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 116 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน