มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 270 ครั้ง
กระทรวงยุติธรรม โดย กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จับมือ กรมอนามัย และ มูลนิธิเชฟแคร์ส ‘ยกระดับประสิทธิภาพการดูแลเด็กและเยาวชนในสถานควบคุมด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างเท่าเทียม’

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 พ.ย.68 ที่โรงแรมทีเค พาเลซ คอนเวนชั่น ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลและการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการระบบงานสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานที่ควบคุม โดยมี นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางนลินนาถ ไกรนรา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นางสุจิตรา แก้วไกร รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นางปรีดา วิสาโรจน์ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน คุณวรวรรณ จั่นทิม กรรมการบริหารโครงการวิสาหกิจเพื่อสังคม (CHEF CARES) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

โดย พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมและกล่าวปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ ในหัวข้อ “นโยบายและทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรม ในการยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด” และมีโอกาสมาพบกับทุกท่านที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำผิด ซึ่งนับเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกระทรวงยุติธรรมในการยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด โดยพัฒนาแนวทางการดูแล แก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเฉพาะด้านที่สอดรับกับสภาพปัญหาของผู้กระทำความผิดแต่ละกลุ่ม สนับสนุนการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเพื่อให้ผู้กระทำผิดกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุขและไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ รวมถึงพัฒนาระบบงานยุติธรรมให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม มาตรฐาน และบรรทัดฐานของสหประชาชาติซึ่งกลุ่มเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม เป็นกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ หากพวกเขาได้รับโอกาสและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การยกระดับระบบการดูแลให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำ “แนวทางการประเมินมาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมสุขภาพสำหรับเด็กและเยาวชน ในสถานที่ควบคุม” ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ผมและกระทรวงยุติธรรมพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนสำหรับการบูรณาการในการขับเคลื่อนการยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดและพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียมีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย

ด้าน นางนลินนาถ ไกรนรา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวรายงานว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนมีภารกิจสำคัญในการดูแล แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู และปรับเปลี่ยนพัฒนาพฤตินิสัยของเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนยุติธรรม รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กและเยาวชนที่อยู่ในการดูแล ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 4,188 คน ได้รับการดูแลตามมาตรฐานอย่างเหมาะสม มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขณะอยู่ในสถานควบคุม และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้รับการป้องกัน แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู สามารถกลับไปดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข จึงได้มีการบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมอนามัย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ของผู้ปฏิบัติงานตามแนวทางการประเมินมาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานควบคุม และมูลนิธิเชฟแคร์ ในการสนับสนุนการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรของกรมพินิจฯ ในด้านโภชนาการและการเป็นผู้สัมผัสอาหาร เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและสร้างสังคมสุขภาพดี

ขณะที่ แพทย์หญิงทิพา ไกรลาศ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ความร่วมมือระหว่างกรมอนามัยและกรมพินิจและคุ้มเด็กและเยาวชน ในการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ควบคุม”

ทั้งนี้ การจัดประชุมฯ ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้อำนวยการส่วนกลาง ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้งสิ้น 200 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้อำนวยการและผู้ปฏิบัติงาน มีมาตรฐานและแนวทางการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นการส่งเสริมภารกิจและเป้าหมายของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการดูแล แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู พัฒนาพฤตินิสัยเด็กและเยาวชนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี และไม่กระทำความผิดซ้ำภายหลังที่ได้รับการปล่อยตัว
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 270 ครั้ง



