มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 116 ครั้ง
ผบช.ภ.1 แถลงจับกุมเครือข่ายนักขนยาเสพติดตะวันออก ผู้ต้องหา 2 ราย ยึดคีตามีน 300 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท

วันนี้ (4 พ.ย.68) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี , พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงจับกุม นายภาณุวัฒน์ หรือ น๊อต อายุ 28 ปี และ นายดนุพล หรือ มอส อายุ 25 ปี พร้อมของกลาง คีตามีน 300 กิโลกรัม รถยนต์กระบะตู้ทึบ 1 คัน โทรศัพท์ 2 เครื่อง จับกุมได้ที่ ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งใต้ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมนายสุรัตน์ กับพวก รวม 3 คน พร้อมยาบ้า 60,000 เม็ด ที่บริเวณสะพานต่างระดับสิงห์ใต้ หมู่ 2 ต.ม่วงหมู่ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.68 และได้สืบสวนติดตามจนทราบว่านายภาณุวัฒน์ เคยจัดส่งยาเสพติดให้นายสุรัตน์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย.68 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนายภานุวัฒน์หรือน็อต ขับรถยนต์กระบะ มุ่งหน้าไปทาง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามไปจนกระทั่งพบว่า นายภานุวัฒน์ ไปรับยาเสพติดของกลางมาจากพื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี แล้วขับรถกลับมุ่งหน้าไปทาง จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งใต้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงติดตามมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.68 เวลาประมาณ 01.30 น. เมื่อนายภาณุวัฒน์ ขับรถมาถึงบริเวณถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งใต้ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าสกัดจับรถยนต์ขที่นายภาณุวัฒน์ ขับมา โดยภายในรถมีนายดนุพลนั่งมาด้วย

จากการสอบถามนายภาณุวัฒน์ และ นายดนุพล ยอมรับว่าได้ไปรับยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดได้มาจริง และกำลังจะนำไปส่งให้กับผู้รับในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาให้นายภาณุวัฒน์ และ นายดนุพล ทราบว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี

การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการระงับยับยั้งการแพร่กระจายยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางน้ำหนักรวมจำนวน 300 กิโลกรัม หากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 150,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้ขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 116 ครั้ง


                     
                     
