บ้านใหญ่ไม่แบ่งพรรค ‘อนุชา สะสมทรัพย์’ กับ NCDs ที่ไม่ได้ยึดติดสีเสื้อ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 356 ครั้ง

ในสมรภูมิทางการเมืองไทยที่ร้อนระอุเต็มไปด้วยการแยกสี แบ่งฝ่าย และแข่งกันสร้าง เครดิต ในนามพรรคและบุคคล นายอนุชา สะสมทรัพย์ รมช.สาธารณสุข กลับเดินเกมคนละมุมกับนักการเมืองรุ่นใหม่ ผู้เอะอะก็ชูมือถือ ไลฟ์สด ไล่เบี้ย ไล่บี้คู่แข่ง แต่เลือกจะก้มหน้าทำงานเงียบ ๆ รับลูกจาก รัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน แม้จะอยู่กันคนละพรรค คนละป้าย คนละร่มเงาทางการเมือง หลายคนอาจสงสัยว่า การที่อนุชา ขานรับนโยบาย ลดโรค NCDs” ของรัฐมนตรีจากพรรคอื่นนั้น เป็นการ เล่นบทอัศวินม้าขาว เพื่อหาเสียงล่วงหน้า หรือซ่อนนัยยะทางการเมืองบางอย่างหรือไม่

คำตอบคือถ้าจะซ่อนอะไร ก็คงเป็น ความจริงใจที่ไม่ต้องป่าวประกาศ มากกว่า เพราะสิ่งที่อนุชาทำ ไม่ใช่แค่ รับนโยบาย แต่มันคือ รับผิดชอบไม่ใช่แค่ยืมมือรัฐมาทำโปรเจกต์ แต่คือยื่นมือไปแตะหัวใจของประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่แค่เดินตามนโยบาย แต่คือเดินนำเข้าไปในซอกซอยของบ้านที่ไม่มีแม้แต่รั้วโรงพยาบาลให้เดินเข้า

ถ้าใครเคยรู้จักตระกูล สะสมทรัพย์ ก็คงรู้ดีว่าบ้านใหญ่นี้ไม่เคยแบ่งพรรค แยกประชาชน พวกเขาสะสมชื่อเสียง สะสมความไว้วางใจ สะสมสายใยกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จน สะสมทรัพย์ ไม่ใช่แค่ชื่อ แต่คือ “ทุนทางสังคม” ที่แลกคืนเป็นศรัทธาได้เสมอ

ในภาวะที่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กลายเป็น โรคเรื้อรัฐ เพราะรัฐนั้นมักจะเรื้อรังเรื่องการบริหาร และการเข้าถึงบริการสุขภาพกลายเป็นของหรูหราเหมือนแอร์แบรนด์ดังในบ้านที่ไม่มีแม้แต่หลังคา

โครงการ NCDs ที่เน้นการคัดกรอง ป้องกัน และปรับพฤติกรรมจึงไม่ได้เป็นแค่ โครงการสุขภาพแต่มันคือ โครงการสร้างโอกาส ในพื้นที่ที่คนเจ็บไม่มีแม้แต่บัตรคิวไม่ต้องป่วยอีกต่อไป แต่สำหรับอนุชา มันไม่ได้จบแค่ตัวเลขของโรคเบาหวาน ความดัน หรือภาวะอ้วน มันคือการชวนให้คนในพื้นที่ กลับมาหายใจแบบไม่ต้องรอวันลาออกจากชีวิตจึงไม่น่าแปลกใจที่เพียงไม่กี่เดือน กลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงได้พุ่งทะยานเป็นแสน เพราะอนุชารู้ว่าแม้ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี แต่บ้านใหญ่ก็ทำงานใหญ่ได้ ถ้าใจมันใหญ่มากพอ

ในขณะที่นักการเมืองบางคนยังติดกับอยู่ในวังวน ใครคิด ใครทำ ใครได้เครดิต บ้านใหญ่สะสมทรัพย์กลับเชื่อว่าถ้ามันดีต่อประชาชน ต่อให้มาจากพรรคตรงข้าม ต่อให้ไม่ใช่ลูกในครรภ์ของตระกูล แต่ถ้ามันทำให้ ลูกในพื้นที่ มีชีวิตที่ดีขึ้น เขาก็พร้อมเป็นคนอุ้ม เพราะบางที ผลงานที่ดี ก็ไม่ได้ขึ้นกับ พรรคที่ถูกแต่อยู่ที่ คนที่ถูกเลือกแล้วไม่ลืมว่าทำไมถึงได้มา

ในวันที่ประเทศนี้ยังเต็มไปด้วยโรคเรื้อรังทั้งทางกายและทางการเมือง การมีนักการเมืองที่ยอม ข้ามพรรค แต่ไม่ข้ามประชาชน คือยารักษาที่ดีที่สุด เพราะบางครั้ง การไม่แบ่งพรรค ก็คือการไม่แบ่งคน และการยอมทำตามนโยบายที่ดี แม้มาจากปากคนละสี ก็สะท้อน หัวใจที่เป็นสีเดียวกับประชาชนซึ่งไม่ใช่สีแดง ไม่ใช่สีฟ้า ไม่ใช่สีส้ม แต่คือ สีของคนที่หายดีเพราะได้รับโอกาส

สะสมทรัพย์ไว้เพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่ออำนาจ และนั่นคือคำตอบที่ไม่ต้องเขียนบนป้ายหาเสียง แต่เขียนไว้ในหัวใจของแสนคนที่ได้รับการดูแลแล้ว

โดย ดร.ณพรรษธ์สรฌ์ เสมสันต์ นักวิชาการอิสระ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 356 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน