มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 204 ครั้ง
วันนี้ (23 พ.ค.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย คุณปุ๊กกี้ เดินทางพา น.ส.ภัครดา หรือ เบลล์ ผู้เสียหายจากการถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง เพื่อเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. โดยมี พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.ฝอ.3 บก.อก.บช.น. รับหนังสือร้องเรียน

โดย ทนายรณรงค์ ได้กล่าวว่า “วันนี้มายื่นหนังสือคือการขอให้ตั้ง “ชุดสืบสวนสอบสวนเฉพาะกิจ” เร่งคลี่คลายคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ แม้ผู้เสียหายไม่มีข้อขัดแย้งกับใคร และได้ให้ข้อมูลว่าถูกกระทำความผิดโดยไม่ทราบผู้ก่อเหตุประกอบกับ ใบรับรองแพทย์และภาพบาดแผล ยืนยันว่าเป็นแผลฉีกขาดลึกที่หนังศีรษะ หากมาถึงมือแพทย์ล่าช้าอาจถึงแก่ชีวิตได้
คดีนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.พระโขนง และยังมีพฤติการณ์ที่ผู้เสียหายระบุว่าคนร้ายอาจเกี่ยวพันกับอีกเหตุการณ์หนึ่งในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ แต่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกันคือ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และใช้ความรุนแรงซ้ำซ้อนที่สำคัญ ผู้เสียหายมีความกังวลว่า คนร้ายอาจใช้อิทธิพลของบิดา ซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้ามาแทรกแซงกระบวนการสอบสวน หรือกดดันพยานหลักฐาน จนทำให้คดีไม่คืบหน้า จึงจำเป็นต้องร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาลโดยตรง”
ด้าน น.ส.เบล กล่าวว่า ฝ่ายชายเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย รู้จักกันครั้งแรกสุภาพ พูดน้อย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีลูกมา 2 คน และมีแฟนมาก่อนหน้าเราแล้ว แม่ของลูกเขาทักมาหาเรา บอกว่ามีทะเบียนสมรส รับรู้ว่าฝ่ายชายอยู่กับเรา ซึ่งเรารู้สึกแปลกใจและรับไม่ได้กับการเป็นเมียน้อยและมีทะเบียนสมรส โดยตบหน้า ส.ค.67 แต่หลังจากทำร้ายร่างกายเราแล้วเปลี่ยนไปจากเดิม ตนเคยเรียกร้องทำเลเซอร์แผลถูกทำร้ายที่เท้าบอกไม่จ่าย อย่างไรก็ตาม ตนบอกให้ไปเคลียร์กับภรรยาก่อน แต่กลับบอกแค่กระดาษใบเดียว เราขอออกจากบ้านแต่ฝ่ายชายบอกว่าจะไม่มีใครได้ออกจากบ้านหลังนี้ และไม่ให้ตัวเองออกจากบ้านและทำร้ายร่างกายเราครั้งแรก ฝ่ายชายเข้ามาซ้อมเรา จนเราต้องยืนกอดต้นไม้ไม่รู้จะไปไหน เขาก็ทำร้ายเราด้วยการกระทืบ แล้วฝ่ายชายบอกว่าสมควรโดนแล้ว เพราะเราสู้กลับ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้น สน.ห้วยขวาง ต้องการมาขอโทษแม่ตัวเอง เขาต้องการจะมาขอโทษแต่กลับมาทำร้ายเราซ้ำ ส่วนฝ่ายชายใช้สารเสพติดหรือไม่ เห็นเพียงแค่กัญชา แต่ไม่น่าจะใช้สาเหตุที่เป็นแบบนี้น่าจะเพราะตัวของเขาเองและ สิ่งที่หนูขต้องการคืออยากให้เขารู้สึกผิดจากใจสักครั้ง หนูบอกว่าหนูสมควรโดน แม้กระทั่งคนก่อนหน้าหนูก็โดนมาก่อน โดยเขาโกหกทุกคน ขณะนี้ไม่ได้ติดต่ออะไรเรามา และพ่อของเขาไม่ได้ติดต่อมา ยืนยันว่าจะไม่กลับไปคืนดีกันอีกอย่างแน่นอน ที่บ้านร้องไห้พ่อแม่บอกไม่อยากไปรับศพลูกเพราะตัวของเขา
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 204 ครั้ง