ตร.ภ.1 บุกรวบ “เปรม ปชน.” เครือข่ายแก๊งต่ำเอี่ยว ขนยาบ้าบิ๊กล็อต 5.6 แสนเม็ด พร้อมทลายแก๊ง “เด็กมันดื้อ” ไล่ยิงรถชาวบ้าน ฉุนถูกปาดหน้า

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 232 ครั้ง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ก.พ.68 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์, พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงการจับกุม นายปองเทพ หรือ เปรม หรือ “เสือเปรม ปชน.” อายุ 30 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” พร้อมของกลางยาบ้า 560,000 เม็ด, ยาไอซ์ 218 กก., ยาอี 3,163  เม็ด, เคตามีน 88 กรัม อาวุธปืน 5 กระบอก รถยนต์ 4 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายปองเทพ หรือ เปรม (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี จะนำยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 2กน 4980 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์มาสด้า 3 สีแดง ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 3กล 7975 กรุงเทพมหานคร เพื่อรอส่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้า จากนั้นวันที่ 12 ก.พ.68 เวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วางกำลังซุ่มดูลานจิดรถที่อพาร์ทเมนท์ แห่งหนึ่ง อยู่ภายในซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. พบว่านายปองเทพหรือเปรมฯ ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4ขช 3449 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดบริเวณข้างรถยนต์มาสด้า สีแดง และได้เดินไปยังรถยนต์ยี่ห้อซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน 6กล 9569 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอความร่วมมือในการตรวจค้นตัวและยานพาหนะ ผลการตรวจภายในรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 217 กก.และตรวจค้นภายในรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีแดง พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 310,000 เม็ด และอาวุธปืนพก จำนวน 3 กระบอก จึงได้ควบคุมตัวนายปองเทพฯ และนำตัวนายปองเทพ เข้าตรวจค้นห้องพัก หมายเลข B401 พบยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ประมาณ 250,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 1 กก. ยาอี ประมาณ  3,163  เม็ด และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักประมาณ 88 กรัม พร้อมอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์และลังกระดาษเพื่อแบ่งยาเสพติดและนำส่งให้กับลูกค้าและ อาวุธปืนพกอีก จำนวน 2 กระบอก

จากการตรวจสอบประวัตินายปองเทพ พบว่ามีหมายจับจำนวน 2 หมาย คือ หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 22/2567 ลงวันที่ 17 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์ และใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดหรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” และ หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 1331/2567 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันได้กระทำโดยมีอาวุธ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร” จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาแก๊ง “เด็กมันดื้อ” ใช้ปืนยิงใส่รถคู่กรณีโดยอ้างว่าถูกปาดหน้าและถูกสิ่งของปาใส่รถของตนเอง เหตุเกิดพื้นที่ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ.68 เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนายสันติ อายุ 42 ปี พร้อมด้วยภรรยา และบุตรสาว ว่าขณะเดินทางกลับบ้านพักในพื้นที่ คลอง 9 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และได้พยายามกลับรถที่จุดกลับรถ ในระหว่างนั้น ได้มีรถคู่กรณีซึ่งเป็นรถยนต์ Honda HRV สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ได้ขับรถตีคู่ขึ้นมาทางด้านขวาแล้วลดกระจกฝั่งที่นั่งโดยสารข้างคนขับ จากนั้นมีชายคนที่นั่งข้างคนขับได้ชักอาวุธปืน จ่อเล็งมาทางด้านรถยนต์ของผู้เสียหาย ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลับจึงขับรถหลบหนีมาตามถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพ รถยนต์คู่กรณีได้ขับไล่ติดตาม และยิงปืนใส่ผู้เสียหาย จำนวน 4 นัด กระสุนถูกกระจกหลัง และยางล้อหลังข้างขวาแตก จนกระทั่งผู้เสียหายขับรถหลบหนีมาได้

หลังจากได้รับแจ้งเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าคนร้ายใช้รถยนต์เก๋งห้าประตู ยี่ห้อ Honda รุ่น HRV สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฎธ 5142 กทม. ในการก่อเหตุ และทราบว่ากลุ่มของคนร้ายได้เช่าบ้านพักอาศัย ม.1 ต.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเข้าทำการตรวจค้น ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวได้จับกุมตัว นายมนตรี หรือแสบ อายุ 29 ปี, นายจีรตะ หรือมาร์ก อายุ 32 ปี, นายชาตรี หรือตรี พงษ์ภมร อายุ 36 ปี

จากการสอบสวนทราบว่ามีผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน คือนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชร (คนที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียหาย) และ นายณรงค์ศักดิ์ หรือมอส (คนขับรถ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปที่บ้านพักของ นายพงศ์พันธุ์ หรือเพชร แต่ไม่พบตัว จากการตรวจค้นบ้านพักพบเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. และเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. รวม 729 นัด จึงได้ตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไว้

ต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัวนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ (คนยิง) ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันไปตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ Smith Wesson ขนาด .38 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ โดยมี นายพงศ์พันธุ์ หรือเพชรฯ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดบริเวณป่าริมถนนภายในซอยหลังปั๊มน้ำมันพีที สาขาวังน้อย 4 (ถ.พหลโยธิน กม.59) และไปตรวจยึดรถยนต์เก๋งห้าประตู ยี่ห้อ Honda รุ่น HRV สีดำ ขณะตรวจยึดติดแผ่นป้ายทะเบียน ษน 225 กทม. ที่บริเวณริมถนนหน้าบ้านหนึ่ง ม.2 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบแผ่นป้ายทะเบียน ฎธ 5142 กทม. อยู่ภายในรถ (ซึ่งเป็นแผ่นป้ายทะเบียนที่ใช้ติดรถในวันเกิดเหตุ

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ทะเบียนจริงของรถคันที่ใช้ก่อเหตุคือ 9 กญ 1112 กทม.) นายพงศ์พันธุ์ หรือเพชร รับว่ารถยนต์คันดังกล่าวคือรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ในวันก่อเหตุ โดยหลังจากก่อเหตุได้เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียน และได้นำมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยนายพงศ์พันธุ์ หรือเพชร อ้างว่า ในวันเกิดเหตุถูกรถคู่กรณีขับปาดหน้าและถูกวัตถุของแข็งปาใส่รถของตนเองในส่วนของนายณรงค์ศักดิ์ หรือมอส ที่อยู่ระหว่างหลบหนี สภ.วังน้อย จะได้ดำเนินรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชุน” และจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 232 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน