มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 510 ครั้ง
วันนี้ (2 พ.ค.67) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุร, พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงการณ์จับกุมเครือข่ายยาเสพติด “ทีมโกดัง เหลือเชื่อ สุพรรณบุรี” ยึดของกลางยาบ้ากว่า 4.5 ล้านเม็ด และยาบ้า (ผงรออัดเม็ด) น้ำหนักประทาณ 18 กก. เครื่องอัดเม็ด และยานพาหนะ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้ร่วมกันทำการจับกุมนายสนธยา หรือสน พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 1,490,000 เม็ด ที่บริเวณถนนสายบางบัวทอง – สุพรรณบุรี ฝั่งมุ่งหน้าไปอำเภอบางบัวทอง หมู่ 3 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จากการสืบสวนขยายผลจากการจับกุมดังกล่าวทำให้ทราบว่ามีกลุ่มผู้กระทำผิดที่ทำหน้าที่รับยาเสพติดจาก กลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือแล้วมาเก็บไว้ในพื้นที่ภาคกลางเพื่อรอจำหน่าย
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้รับยาเสพติดจาก ผู้ลำเลียงได้นำมายาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ต.สระแก้ว อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ด้านหน้าติดถนน ส่วนด้านหลังเป็นโรงสีร้าง จึงได้กระจายกำลังกันเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา ขับเข้าไปจอดที่บริเวณโรงสีร้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปแสดงตนเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่นายสมประสงค์ หรือเอก ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ได้วิ่งลงจากเข้าไปภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปควบคุมตัวไว้ได้ และเข้าตรวจค้นภายในบ้านพบนายทัชชกร หรือโหน่ง ซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณชั้น 4 จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คน และนำตัวมาตรวจค้นที่รถ

จากการตรวจค้น พบของกลางยาบ้าจำนวน 4,298,000 เม็ด อยู่ภายในรถยนต์เก๋งจอดอยู่บริเวณโรงสีร้างหลังบ้าน , ยาบ้าจำนวน 136,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นั่งภายในหัวเก๋งของรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ที่อยู่บริเวณโรงสีร้างหลังบ้าน , ยาบ้าลักษณะเป็นผงบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักประมาณ 6 กิโลกรัม อยู่ในห้องซึ่งสร้างอยู่บริเวณหลังบ้าน , ยาบ้าจำนวน 130,000 เม็ด และยาบ้าลักษณะเป็นผงบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส น้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัม โดยวางรวมอยู่กับเครื่องปั่นเม็ดยา อยู่บริเวณหลังบ้าน , เครื่องอัดเม็ดยา จำนวน 1 เครื่อง ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องชั้น 3 ของบ้าน , รถยนต์กระบะแบบแคป จำนวน 1 คัน , รถยนต์เก๋ง 1 คัน พบจอดอยู่บริเวณโรงสีร้างหลังบ้าน รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 4,564,000 เม็ด และยาบ้า (ผงรออัดเม็ด) หนักรวมประมาณ 18 กิโลกรัม
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวนายสมประสงค์ หรือเอก และ นายทัชชกร หรือโหน่ง พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินคดี
เบื้องต้นโดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่าย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายต่อสาธารณะชน”

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 76,500,000 บาท และเจ้าหน้าจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคล ในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 510 ครั้ง