“เฉลิมชัย” สั่งฑูตเกษตรสอบพ่อค้าจีนขายทุเรียนไทยด้อยคุณภาพในเซี่ยงไฮ้

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 726 ครั้ง

24 ชั่วโมงรู้เรื่อง ฟรุ้ทบอร์ดทำไวทำจริง !!! “เฉลิมชัย” สั่งฑูตเกษตรตรวจสอบทันทีกรณีมีข่าวพ่อค้าจีนขายทุเรียนไทยด้อยคุณภาพในเซี่ยงไฮ้ “อลงกรณ์” แจงรายงานล่าสุดยืนยันไม่ใช่ทุเรียนไทย แต่อย่าประมาทอาจพลาดได้เพราะส่งออกทุเรียนผลสดไปจีนปีนี้แล้วกว่า 210 ล้านลูก มอบทูตเกษตรไทยในจีน ชี้แจงข่าวสื่อสารเชิงรุกพร้อมเฝ้าระวังป้องกันปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพล่วงหน้า เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของผลไม้ไทยทุเรียนไทยในฐานะแชมป์จีนแชมป์โลก

กรณีที่สื่อบางฉบับนำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ว่ามีการเผยแพร่คลิปทุเรียนซึ่งวางจำหน่ายในประเทศจีน ที่ผู้ขายอ้างว่าเป็นทุเรียนจากไทย จนทำให้ลูกค้าในเซี่ยงไฮ้หลงเชื่อซื้อกลับไปรับประทานในราคากิโลกรัมละ 200 หยวน หรือประมาณ 1,000 บาท แต่กลับพบว่ารสชาติไม่ใช่ของไทย และคลิปดังกล่าวยังถูกส่งต่อในประเทศจีนเป็นวงกว้างจนเกรงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะกระทบต่อชื่อเสียงของทุเรียนไทย

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด) Fruit Board เปิดเผยวันนี้ (29 พ.ย.) ว่า ทันทีที่ทราบข่าวได้รายงานต่อ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานฟรุ้ทบอร์ด โดยสั่งการทันทีในวันที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว (28 พ.ย.) ให้ฑูตเกษตรของไทยทั้ง 3 สำนักงาน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยทันที โดยได้รับรายงานในตอนค่ำของวันวานจากกงสุลฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ว่า ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจุดจำหน่ายทุเรียนตามที่ปรากฏในข่าวแต่ไม่พบการขายทุเรียน

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า กรณีที่เป็นข่าว เป็นรถขายทุเรียนริมทาง (รถกระบะ) ไม่ใช่การขายทุเรียนจากร้านค้าที่มีแหล่งที่ตั้งถาวร โดยปกติรถขายทุเรียนคันนี้จะจอดขายช่วงกลางคืนบนถนน Xinhua ของเมืองเซี่ยงไฮ้ ช่วงวันที่ขายก็ไม่แน่นอน แต่ส่วนใหญ่จะมาขายวันเสาร์อาทิตย์ ที่ผ่านมารถดังกล่าวไม่ได้มาจอดขายทุเรียน ณ บริเวณนั้นนานกว่าสัปดาห์แล้ว ราคาขายจะเป็นราคาต่อชิ้นหรือ 500 กรัม ปกติทุเรียนไทยที่จำหน่ายในช่วงนี้ราคาประมาณ 25-40 หยวน/500 กรัม หรือ 50-80 หยวน/กก. (หรือประมาณ 250-400 บาท/กก)

ทั้งนี้ รถขายทุเรียนข้างทาง ส่วนใหญ่จะพบเห็นตามชานเมือง จอดขายริมถนนเฉพาะช่วงกลางคืน เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่  และทุเรียนที่ขายก็เป็นทุเรียนตกเกรด คุณภาพต่ำ และส่วนใหญ่ราคาถูกกว่าร้านค้าผลไม้ที่ได้มาตรฐาน

จากการสอบถามข้อมูลจากตลาดค้าส่งทราบว่า รถขายทุเรียนข้างทางในเซี่ยงไฮ้เป็นรถกระบะมาจากมณฑลอื่น โดยพ่อค้าจะไปซื้อทุเรียนตกเกรดราคาต่ำ ในปริมาณมากๆ มาเร่ขายริมถนน โดยบางคันจะเปลี่ยนที่ขายไปเรื่อยๆ จะแกะเนื้อทุเรียนขายเฉพาะเนื้อ ไม่ขายทั้งเปลือก นอกจากนี้ เครื่องชั่งก็ไม่ได้มาตรฐาน จากการสอบถามคนที่เคยซื้อทุเรียนจากรถกระบะ จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุเรียนคุณภาพต่ำ รสชาติไม่อร่อย

นอกจากนี้จากการสำรวจร้านจำหน่ายผลไม้ในพื้นที่ 5 ร้าน ทุเรียนไทยราคาสูงกว่าทุเรียนเวียดนาม พ่อค้าบอกว่าทุเรียนไทยอร่อยและเป็นที่รู้จัก คนที่รู้จักทุเรียน ก็จะมักเลือกซื้อทุเรียนไทย ในสายตาผู้บริโภค จะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างทุเรียนไทยและทุเรียนประเทศอื่นจากรูปลักษณ์ได้ แต่จะสังเกตความแตกต่างจากสติกเกอร์ที่ขั้วผลที่ระบุว่าเป็นทุเรียนจากประเทศไทยหรือเวียดนาม

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สปษ.ปักกิ่ง ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจวและเซี่ยงไฮ้ ได้มีการรายงานและเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานทุเรียนที่ส่งออกมายังจีนอย่างต่อเนื่อง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงควรให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพทุเรียนไทยก่อนการส่งออกเพื่อมิให้มีทุเรียนตกเกรด หรือทุเรียนคุณภาพต่ำมาจำหน่ายซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยในภาพรวม ตามนโยบายยกระดับคุณภาพและมาตรฐานผลไม้ไทยของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานฟรุ้ทบอร์ด ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายเกษตรทั้ง 3 สำนักงานร่วมกับทีมไทยแลนด์ในจีนเฝ้าระวังติดตามข่าวสารในสื่อออนไลน์และสื่อต่างๆ หากปรากฎข่าวที่กระทบต่อผลไม้ไทยให้ตรวจสอบและชี้แจงต่อสาธารณชนทันที นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กรมวิชาการ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และหน่วยงานในพื้นที่ผลไม้ทำงานเชิงรุกบูรณาการกับทุกภาคส่วนให้เข้มข้นเข้มแข็งมากขึ้น

โดยเฉพาะการประสานการทำงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ พาณิชย์ สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนผลไม้ สมาคมผลไม้ สมาคมทุเรียน สมาคมผู้ส่งออก หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ศูนย์ AIC และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันทุเรียนสวมสิทธิ์ ทุเรียนอ่อน ทุเรียนด้อยคุณภาพ การปนเปื้อนโควิด การใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) และการพัฒนาแบรนด์ เช่น สหกรณ์การเกษตรเมืองขลุง จังหวัดจันทบุรี รวมทั้งการสร้างแบรนด์ทุเรียนจังหวัด เช่น จันทบุรี ตราด ระยอง ศรีสะเกษ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช เพชรบุรี ยะลา และประจวบคีรีขันธ์ เป็นตัวอย่าง ต้องเข้าใจว่าขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้ส่งออกทุเรียนผลสดรายเดียวในจีนมีการแข่งขันในตลาดจีนมากขึ้นอาจมีผู้ไม่หวังดีออกข่าวหรือทำคลิปเผยแพร่บ่อนทำลายใส่ร้ายทุเรียนไทยให้เสียหายจึงต้องช่วยกันดูแลเป็นพิเศษ

“ตั้งแต่ 1 ก.พ. กลางเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ประเทศไทยส่งออกทุเรียนผลสดไปจีนแล้วกว่า 7 แสนตัน หรือกว่า 210 ล้านผล ยังเป็นแชมป์ส่งออกไปจีน และครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 90% ทำให้ชาวสวนทุเรียนมีรายได้เพิ่มขึ้นและราคาดีมีเสถียรภาพ แต่ยังมีทุเรียนด้อยคุณภาพ หลุดส่งออกไปจีนแม้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า 0.001% นับว่าน้อยมาก และสะท้อนถึงความสำเร็จของนโยบายยกระดับคุณภาพและมาตรฐานที่ทุกภาคภาคส่วนได้ช่วยกันทำงานตั้งแต่ชาวสวน มือตัด สหกรณ์ สมาคมผลไม้ สมาคมทุเรียน สมาคมล้ง ผู้ประกอบการเอกชน และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่และในต่างประเทศ แต่เราต้องทำงานหนักขึ้นเมื่อมีสถานการณ์การแข่งขันเปลี่ยนแปลงไปมีคู่แข่งมากขึ้นมีการปลูกทุเรียนมากขึ้น ซึ่งฟรุ้ทบอร์ดได้เตรียมการล่วงหน้ามา 2 ปี โดยศึกษาโจทย์และความท้าทายใหม่ๆ จนสามารถจัดทำแผนพัฒนาผลไม้ 5 ปี (2565-2570) จนแล้วเสร็จและดำเนินการอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการบริหารโลจิสติกส์จนสามารถเปิดด่านจีนได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 ด่าน และประสานงานกับจีนและลาวอย่างต่อเนื่อง ในการขนส่งทุเรียนและผลไม้อื่นๆ ตามพิธีสารผลไม้ไทย-จีนทางรถไฟจีน-ลาว ได้ในเดือนหน้าถือเป็นข่าวดีและโอกาสใหม่ๆ ของผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน ลำไย มังคุด ฯลฯ” นายอลงกรณ์ กล่าวในที่สุด

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 726 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน