‘ทวี’ มอบนโยบาย ชู “การศึกษา” หัวใจหลัก แก้จน-ยาเสพติด พลิกโอกาสใช้ “ผู้ถูกคุม” เป็นกำลังสำคัญพัฒนาประเทศ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 404 ครั้ง

รมว.ยุติธรรม มอบนโยบายกรมคุมประพฤติ ชู “การศึกษา” หัวใจหลัก แก้จน-แก้ปัญหายาเสพติด พลิกโอกาสใช้ “ผู้ถูกคุม” เป็นกำลังสำคัญพัฒนาประเทศ สู่ “พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” แก้วิกฤตแรงงานขาดแคลน

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.68 ที่กระทรวงยุติธรรม แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวมอบนโยบายการศึกษาของผู้กระทำผิด ที่อยู่ในความดูแลของ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ณ ห้องประชุม 10-01 อาคารกระทรวงยุติธรรม แจ้งวัฒนะ โดยมี พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ นำคณะผู้บริหารกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม กล่าวให้การต้อนรับ และรับมอบนโยบาย โดยมี นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, นางธารินี แสงสว่าง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม, นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายพลรักษ์ รักษาพล คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้แทนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม รวมถึงมีการประชุมออนไลน์กับผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจากทั่วประเทศ จำนวน 105 แห่ง พร้อมกันด้วย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้มอบนโยบายสำคัญแก่กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยชี้ให้เห็นถึงวิกฤตการขาดแคลนแรงงานในประเทศ และเสนอแนวทางพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างกำลังคนจากภายในว่า เมื่อแรงงานกัมพูชากว่า 200,000 คน เดินทางกลับประเทศ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญว่าการพึ่งพาแรงงานต่างชาติไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืน การพัฒนาประเทศที่แท้จริงต้องมาจากศักยภาพของคนในชาติเป็นหลัก กรมคุมประพฤติ และ กรมราชทัณฑ์ มีผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลรวมกันปีละประมาณสี่แสนคน โดยแบ่งเป็นผู้ถูกคุมประพฤติสองแสนคน และผู้พ้นโทษอีกประมาณสองแสนคนต่อปี ซึ่งคนกลุ่มนี้คือ กำลังแรงงานที่ซ่อนอยู่ ที่รัฐบาลสามารถลงทุนพัฒนาและนำกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศได้ แทนที่จะใช้เงินหลายพันล้านบาทหมดไปกับการจ้างแรงงานต่างชาติ รัฐบาลจะได้นำงบประมาณดังกล่าวมาใช้ในการพัฒนาทักษะและศักยภาพของผู้ถูกคุมประพฤติ เพื่อให้พวกเขามีทักษะเทียบเท่าหรือสูงกว่าแรงงานต่างชาติ และสร้างความเจริญให้แก่ประเทศได้อย่างยั่งยืน การแก้ปัญหาความยากจนที่ดีที่สุด คือ การแก้ที่การศึกษาถึง 70% และการแก้ปัญหายาเสพติดก็ต้องแก้ที่การศึกษาเช่นกัน กรมคุมประพฤติ จะต้องเป็น แซนด์บ็อกซ์ หรือพื้นที่นำร่องในการจัดกิจกรรม พัฒนาพฤตินิสัย โดยจะร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้ที่เคยทำผิดพลาด ให้พวกเขากลับมาเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ

โดย พ.ต.อ.ทวี ยังได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่คุมประพฤติทั่วประเทศว่า งานของพวกคุมประพฤติเป็น นวัตกรรมทางสังคม ที่สร้างคนที่มีคุณภาพกลับคืนสู่สังคมอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญในการสร้างความเจริญที่มั่นคงของประเทศไทยในอนาคต

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังได้มอบป้ายไฟร้านตัดผม และมอบทุนประกอบอาชีพให้ นายนพพงษ์ พุ่มคง หรือ ช่างมาร์ค คนคุมประพฤติต้นแบบ ของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม และ ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจากทั่วประเทศ ที่ประชุมออนไลน์ด้วย

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 404 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน