กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการประกวดอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มในเรือนจำ/ทัณฑสถาน

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 372 ครั้ง

วันนี้ (2 พ.ค.68) เวลา 10.00 น. ที่เรือนจำกลางนครปฐม พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และรองประธานคณะกรรมการกองทุนกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการประกวดอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ภายใต้และเครือข่ายโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองประธานกรรมการกองทุนกำลังใจฯ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นางอาภรณ์ แก้วเวียงชัย ผู้อำนวยการกองพัฒนานวัตกรรมการยุติธรรมและคณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ผศ.ดร.ธนวิทย์ ลายิ้ม คณบดีคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลกรุงเทพ ผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เข้าร่วมพิธี โดยมี นายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม กล่าวต้อนรับ พร้อมทั้งเรือนจำ/ทัณฑสถาน ภายใต้และเครือข่ายโครงการกำลังใจฯ จำนวน 32 แห่ง ร่วมพิธีผ่านทางระบบ Video Conference

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้ทรงเน้นการพัฒนาอาชีพ ที่รวมถึงอาชีพทำอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นอาชีพหนึ่งที่ทรงแนะนำวิทยากรที่มีชื่อเสียงมาให้ความรู้โดยตลอด คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ดำเนินงานตามแนวทางที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ พระราชทานมาตลอดจนถึงปัจจุบัน และเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ได้ร่วมประชุมและเห็นชอบกิจกรรมการประกวดการประกอบอาหารที่เป็นมาตรฐาน และพัฒนางานด้านคหกรรมศาสตร์ในเรือนจำ และทัณฑสถานภายใต้โครงการกำลังใจในพระดำริฯ รวมทั้งเรือนจำ และทัณฑสถานเครือข่ายที่นำแนวทางของโครงการกำลังใจฯ ไปขยายผล จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางนครปฐม ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา ทัณฑสถานหญิงชลบุรี เรือนจำจังหวัดสระบุรี และ เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม และพัฒนาการฝึกอาชีพการทำอาหาร และขนมของเรือนจำในโครงการกำลังใจฯ และเรือนจำเครือข่ายที่มีความพร้อมให้ความรู้กับผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำในเรื่องต่าง ๆ เช่น ความรู้ด้านการประกอบอาหาร เทคนิคการประกอบอาหาร บรรจุภัณฑ์ การจัดตกแต่ง และนำเสนอ การคิดต้นทุน และโภชนาการ การออกใบประกาศนียบัตรผู้สัมผัสอาหาร เพื่อเป็นใบเบิกทางในการทำงานภายหลังพ้นโทษ การนำไปสู่การทดสอบ และยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงาน จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมถึงโอกาสในการทำงานเป็นเชฟหรือผู้ช่วยเชฟ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน โดยกิจกรรมดังกล่าวได้ร่วมประชุมกับคณะอาจารย์ จากคณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ที่จะเข้ามาช่วยอบรมเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็น ครู ก ในการนำความรู้ที่ได้กลับไปถ่ายทอดให้แก่ผู้ต้องขัง และในอนาคตจะเข้ามาช่วยพัฒนาเรื่องอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มของเรือนจำ/ทัณฑสถานให้ดีขึ้น เช่น การพัฒนาอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มให้เป็นแบบเพื่อสุขภาพ ให้สอดคล้องกับการป้องกัน และลดโรคเอ็นซีดีในเรือนจำ รวมถึงการพัฒนาอาชีพในด้านอื่น ๆ เช่น งานฝีมือ และงานศิลปหัตถกรรมต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากเรือนจำกลางนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการฝึกอบรม และการจัดการประกวด เนื่องจากเรือนจำกลางนครปฐมมีโรงประกอบอาหารที่ทันสมัย มีสตูดิโอเพื่อการประกอบอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มที่เป็นมาตรฐาน เหมาะสมที่จะเป็นที่สำหรับการให้ความรู้ และจัดการประกวด อีกทั้งเรือนจำกลางนครปฐมเป็นเรือนจำแห่งแรก และแห่งเดียวที่ได้รับใบประกาศมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) รวมถึงเข้าร่วมประกวดรางวัลออสการ์อาหารโลก Cookbook Awards ในปี 2567 ในชื่อ THE POWER OF STYLING : PRISON FOOD ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภทสาขา ASIA Special Awards อีกด้วย เพื่อหารือแนวทางในการดำเนินงานการจัดกิจกรรมประกวดการประกอบอาหารของหวาน และเครื่องดื่ม โดยได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำหลักเกณฑ์การประกวด แนวทางการพัฒนาอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มในเรือนจำ และทัณฑสถาน ทั้งที่เป็นอาหารและของหวาน Signature ของเรือนจำ และอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ที่จะส่งเข้าประกวด โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ 1) อาหารไทย (สร้างสรรค์เมนูได้ตามบริบทท้องถิ่น) 2) ขนมหวาน เมนูข้าวเหนียวมูน (หน้าขนมออกแบบสร้างสรรค์ได้เอง) 3) เครื่องดื่ม (ม็อคเทลสมุนไพรตามบริบทท้องถิ่น) และ 4) ของหวานที่เป็น Signature ของเรือนจำ และทัณฑสถาน 1 – 2 ประเภท เพื่อจะได้พัฒนาของหวานที่เรือนจำ/ทัณฑสถานดำเนินการอยู่แล้ว โดยการจัดกิจกรรมประกวดอาหาร ของหวาน เครื่องดื่มในวันนี้ถือเป็นการต่อยอดการพัฒนาทักษะทางอาชีพให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ภายใต้โครงการกำลังใจฯ ซึ่งจะเป็นทักษะและวิชาชีพติดตัวให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ได้เป็นอย่างดีต่อไป

ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ด้านการฝึกอบรมวิชาชีพในหลากหลายสาขาวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ต้องขังมีความรู้ สามารถนำไปประกอบวิชาชีพได้ภายหลังพ้นโทษ โดยสาขาการทำอาหาร เป็นอีกหนึ่งสาขาที่ผู้ต้องขังให้ความสนใจ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านเรือนจำ/ทัณฑสถานได้ประสานขอความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ขอการสนับสนุนวิทยากรที่มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถอันเป็นที่ยอมรับในวงการอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ เข้ามาอบรมฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบอาหารให้แก่ผู้ต้องขัง ได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้มีความน่าสนใจและสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่อาหาร ภายใต้และเครือข่ายโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งเป็นกิจกรรมการประกวดการประกอบอาหารที่เป็นมาตรฐานและพัฒนางานด้านคหกรรมศาสตร์ โดยมีเรือนจำ/ทัณฑสถาน ภายใต้โครงการกำลังใจฯ ทั้งสิ้น 30 แห่ง ซึ่งปัจจุบันมีเรือนจำ/ทัณฑสถาน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางนครปฐม ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา ทัณฑสถานหญิงชลบุรี เรือนจำจังหวัดสระบุรี และ เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร

ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนการพัฒนาพฤตินิสัย และเป็นการประชาสัมพันธ์ด้านการ ฝึกวิชาชีพด้านการประกอบอาหารของผู้ต้องขังในเรือนจำ/ทัณฑสถาน อันจะนำไปสู่การสร้างการรับรู้สู่ภาคประชาชนทุกระดับให้รับทราบ และถือเป็นการสนับสนุนให้โอกาสกับผู้ต้องขัง ได้นำความรู้ไปเป็นประโยชน์ ในการประกอบอาชีพสุจริต สามารถหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวภายหลังพ้นโทษ เพื่อสร้างโอกาสและได้รับการยอมรับจากสังคม โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 372 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน