มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 374 ครั้ง
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.68 ที่โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ (สามย่าน) สมาคมพลังงานลม (ประเทศไทย) ได้จัดงานสัมมนา “Next Era of Wind Energy in the Energy Transition Wave” โดยในงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสมาคมพลังงานลมฯ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในแวดวงพลังงาน ดังนี้
Mr.Wu Shengfei ตัวแทนจาก Sany Renewable Energy Co., Ltd. ได้นำเสนอเกี่ยวกับวิวัฒนาการกังหันลมสู่อนาคต ทั้งในด้านเทคโนโลยี ประสิทธิภาพ ขั้นตอนการทำงานและบำรุงรักษา ด้วยแพลตฟอร์ม Smart 08M โดยการคาดการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์และรับประกันการตรวจสอบย้อนกลับตลอดอายุการใช้งานของกังหัน
Mr.Farve Yann และ คุณทศพล เสือทิม จาก UL Solutions Thailand นำเสนอการยกระดับประสิทธิภาพของพลังงานลมและแบตเตอรี่สำรอง ซึ่งตามที่ทราบกันว่าจุดอ่อนที่พลังงานลมโดนตอกย้ำ คือ ความไม่เสถียรในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการนำเสนอนี้ จะทำให้เห็นว่าการใช้แบตเตอรี่สำรองเข้ามาปิดจุดอ่อนของพลังงานลม จะได้ผลและเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นได้อย่างไร
Mr.Li Junda จาก Goldwind International (Thailand) CO., Ltd. ได้มายกตัวอย่างจากกรณีศึกษาเกี่ยวกับพลังงานลมและแบตเตอรี่สำรอง เพื่อให้ได้เห็นภาพของการนำแบตเตอรี่สำรองมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงานลมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายมีการจัดเสวนาถึง 2 หัวข้อ โดยวัตถุประสงค์เพื่อการร่วมกันผลักดันอนาคตของวงการพลังงานสะอาดในยุคแห่งการเปลี่ยนถ่ายพลังงานฟอสซิลสู่พลังงานสะอาดที่ยังยืน โดยเริ่มที่หัวข้อ “อนาคตพลังงานงานสะอาด-มุมมองจากผู้นำอุตสาหกรรม” นำโดย คุณวัชรพงศ์ เข็มแก้ว ตัวแทนจาก Acciona Energia (Thailand) Co.Ltd. คุณอัครฤทธิ์ วิริยาจาร จาก Wind Energy Holding Co., Ltd. คุณชนธัญ หาญศักดิ์วงศ์ จาก B.Grimm Power Public Co.Ltd. ดร.มนธิรา วัชรสุกาญจน์ จาก Wind Power Development Co., Ltd. คุณธฤติ บุณยายน จาก Gunkul Engineering Public Co., Ltd. และ คุณวรณ สงวนวงศ์วาน รองนายกสมาคมพลังงานลม (ประเทศไทย) รับหน้าที่ดำเนินรายการ
วัตถุประสงค์โดยรวมของวงเสวนานี้ อยากให้เราได้เห็นทิศทางใน 10 ปีข้างหน้า ของอุตสาหกรรมพลังงานลมในไทย โดยคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ Direct PPA และตลาดพลังงานเสรี การหลอมรวมพลังงานลมกับเทคโนโลยี พลังงานแสงอาทิตย์ และนำแบตเตอรี่สำรองเข้ามาช่วยเสริม รวมถึงบทบาทของ AI ในการขับเคลื่อนนวัตกรรม เช่น Turbine Optimization ซึ่งอาจก่อให้เกิดการลงทุนที่หลากหลายขึ้น รวมถึง โครงการลมชุมชน และเน้นย้ำถึง มาตรการสนับสนุนของภาครัฐ ในการเร่งสร้างยุคใหม่นี้ ท่ามกลางความท้าทายด้านทัศนคติของชุมชนและอิทธิพลจากนโยบายพลังงานโลก
ส่วนหัวข้อปิดท้ายนั้น ทางสมาคมพลังงานลมฯ ได้จับมือกับพันธมิตรในแวดวงพลังงาน อาทิ ดร.อารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ นักวิชาการนโยบายพลังงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI), คุณอาทิตย์ เวชกิจ นายกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (RE100), คุณชัพมนต์ จันทรพงศ์พันธุ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย, คุณศุภฤกษ์ ยิ้มกอบกิจ นายกสมาคมการค้าก๊าซชีวภาพไทย และ คุณวัชรพงศ์ เข็มแก้ว นายกสมาคมพลังงานลมฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ ได้ร่วมเสวนา ในหัวข้อ “แผนพลังงานไทย..วิ่งอย่างไร? ให้ทันโลก” โดยวัตถุประสงค์หลัก มุ่งเน้นการเรียกร้องและเร่งรัดให้ทางภาครัฐจัดทำและประกาศใช้แผนพลังงานชาติ (NEP) ภายในปี 2568 โดยต้องมีกรอบที่ยึดหยุ่นและการทบทวนทุก ๆ 2 ปี เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ แผน NEP ควรมีเป้าหมายระยะสั้น (5 ปี) เน้นความสามารถในการแข่งขัน และเป้าหมายระยะยาวที่สอดคล้องกับการลดก๊าซเรือนกระจก Nationally Determined Contribution (NDC) ซึ่งตัวเลขของ Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ ถือเป็นโอกาสทองในการเปิดเสริไฟฟ้า แต่ควรแบ่งสัดส่วนให้แก่ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเก่าด้วย เพื่อสร้างความเป็นธรรมและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 374 ครั้ง
