มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 308 ครั้ง
การสร้างความเข้าใจและปลูกฝังแนวทางการสืบสานพระพุทธศาสนา ที่พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จ.นครปฐม ยังคงสืบสานให้ความสำคัญกับการสร้างต้นกล้าในสังคม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่ผูกพันถึงกันมาอย่างยาวนานด้วยหลัก บวร คือ บ้าน วัด โรงเรียน ซึ่งเป็นรากฐานที่ทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขสงบภายใต้ 3 สถาบันหลัก ภายใต้สังคมในยุคปัจจุบัน
หลวงพี่น้ำฝน ให้แนวทางว่า พุทธศาสนา เป็นศาสนาหลักประจำชาติ ซึ่งมีสำคัญในการเป็นเครื่องยึดเหี่ยวจิตใจ โดยมีพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้อย่างสงบและมีเหตุผลด้วยหลักการที่พิสูจน์ได้ แต่จะเห็นได้ว่าปัจจุบันทั่วโลกก็ยังมีความขัดแย้งและมีความเห็นต่างทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวาย และเกิดความวิตกในการดำเนินชีวิตของหมู่มวลมนุษย์ ไม่เว้นแต่ในสังคมไทย ทุกวันนี้เรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่รวดเร็วมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดนั่นคือเราห่างหายและไม่ได้นำหลักพระธรรมคำสั่งสอนมาปรับใช้ให้ทันกับชีวิตในสังคมยุคที่เปิดกว้างและมีความหลากหลายมากขึ้น
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จ.นครปฐม ได้มีการสนับสนุนด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสถาบันการศึกษารอบพื้นที่และสถาบันจากแห่งต่าง ๆ ที่ขอประสานความอนุเคราะห์ในหลายด้าน ซึ่งมีทั้งการส่งเสริมด้านวิชาการ การส่งเสริมด้านการกีฬา การส่งเสริมด้านศิลปะวัฒนธรรม ให้กับเด็ก ๆ และเยาวชน ซึ่งพวกโยมเหล่านั้นคือกำลังสำคัญที่จะเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มาเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างชาติบ้านเมืองให้ทัดเทียมกับนานาชาติที่เจริญก้าวหน้าซึ่งมีความเจริญทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร เช่นทุกวันนี้
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันเด็กและเยาวชนนั้นห่างไกลวัดมากขึ้น เนื่องด้วยเพราะสังคมของเราเปลี่ยนไปในหลาย ๆ ด้าน จากความผูกพันระหว่างวัด บ้าน โรงเรียน ที่เริ่มห่างไกลกันวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จึงได้ปรับวิธีการด้วยการให้พระไปโรงเรียนและให้นักเรียนกลับมาท่องเที่ยวและศึกษาหาขอมูลที่วัด เพื่อให้พระได้รู้จักเด็กและให้เด็กได้รู้จักวัด รู้จักพระ ซึ่งจะเป็นการสื่อสารกันได้แนบชิดและมีกิจกรรมร่วมกันโดยพระนอกจากจะทำหน้าที่ศึกษาและเผยแผ่พระธรรมแล้วยังมีการสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับนักเรียนนักศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้แก่กันด้วยจึงจะสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างมีมิติและนัยยะที่ชัดเจนในการอยู่ร่วมกัน
“อาตมาก็ได้รับกิจนิมนต์จากคณะครู โรงเรียนวัดไผ่ล้อม (พูลประชาอุปถัมภ์) ให้ไปร่วมกิจกรรมวันไหว้ครู ทั้งครู นักเรียนก็นำเอารางวัลต่าง ๆ มาเสนอ จัดกิจกรรมมาโชว์ศักยภาพของเด็กระดับประถมศึกษาในสังกัด รวมถึงการแห่เทียนถวายวัด เช่นเดียวกับที่วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม อาตมาก็ไปร่วมในพิธีไหว้ครูประจำปีทุกปี ซึ่งก็ได้มีโอกาสได้ให้โอวาทกับนักศึกษาในระดับที่โตขึ้น ซึ่งยังได้เปิดให้มีการนำนักศึกษามาฝึกงานที่วัดด้วย หรืออย่างเช่นภายในวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง ก็ยังมีนักเรียนจากหลายแห่งมาร่วมชมความงดงามภายในวัด และมากราบสรีระสังขารของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ซึ่งก็มีนักเรียนจากโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย กรุงเทพ และ โรงเรียนบ้านห้วยรางเกตุ อำเภอกำแพงแสน เข้าทัศนศึกษาในโครงการทัศนะศึกษาในโครงการ เรียนรู้วัดสำคัญในจังหวัดนครปฐมหลายแห่งก็วนเวียนเข้ามาทัศนศึกษา ซึ่งก็จะเป็นการนำนักเรียนมาวัด และพระก็ไปพบนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงถึงกันนั่นเอง” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 308 ครั้ง