มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 182 ครั้ง
“แสนสิริ” จับมือพันธมิตร “วินด์เซอร์” ชูนวัตกรรมประตูหน้าต่าง ไวนิลคาร์บอนต่ำรายแรกในไทย ยกระดับบ้านอยู่สบาย ควบคู่สิ่งแวดล้อมยั่งยืน
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย จับมือพันธมิตร “วินด์เซอร์” (WINDSOR) ผู้นำตลาดประตูหน้าต่างไวนิล ในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ชูนวัตกรรมประตูหน้าต่างไวนิลคาร์บอนต่ำรายแรกในไทยในโครงการบ้านของแสนสิริทั่วประเทศมากกว่า 20 โครงการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม สร้างจุดเปลี่ยนเพื่อสิ่งแวดล้อมยั่งยืน พร้อมยกระดับบ้านอยู่สบาย ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชัน ดีไซน์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติ “Ultimate Protection” จาก “วินด์เซอร์” ที่ช่วยปกป้องบ้านและผู้อยู่อาศัยจากสิ่งรบกวนต่าง ๆ อาทิ ฝุ่น ความร้อน และเสียง ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนไทย
นายประเสริฐ ตระการวชิรหัตถ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริร่วมกับวินด์เซอร์ ผู้นำตลาดประตูหน้าต่างไวนิล ในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ที่เป็นหนึ่งในกรีนพาร์ตเนอร์ (Green Partner) สำคัญที่ช่วยยกระดับโครงการของเรา ทั้งนี้ แสนสิริได้นำนวัตกรรมประตูหน้าต่างไวนิลคาร์บอนต่ำมาติดตั้งในโครงการบ้านของแสนสิริกว่า 20 โครงการทั่วประเทศ โดยล่าสุดในโครงการณริณสิริ กรุงเทพกรีฑา และ ณริณสิริ พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา โดยนำประตูหน้าต่างไวนิลรุ่น “Signature” และ รุ่น “RIGHT” สีดำ Brilliant Black มาใช้ สะท้อนความสง่างามแบบ Georgian Revival ด้วยคุณสมบัติ “Ultimate Protection” จากวินด์เซอร์ ที่ช่วยให้บ้านเย็น อยู่สบาย ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการติดตั้ง และลดเศษเหลือจากการก่อสร้าง นับเป็นอีกก้าวสำคัญของแสนสิริในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทั้งงานดีไซน์ทันสมัย และการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน”
“แสนสิริ นำเรื่องความยั่งยืนมาเป็นแกนหลักของกลยุทธ์และการดำเนินงานอย่างจริงจัง พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้เติบโตไปด้วยกัน และเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2593 ผ่านกลยุทธ์ 3 Green Framework ประกอบด้วย “Green Procurement” คำนึงถึงการรีไซเคิลวัสดุ
การเลือกใช้วัสดุ Low-carbon เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, “Green Architecture and Design” การออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และ “Green Construction”
การก่อสร้างและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วย ลดระยะเวลาการก่อสร้าง ลดขยะจากการก่อสร้าง ช่วยลดฝุ่นและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในไซต์ก่อสร้างลงเป็นจำนวนมาก” นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติม
ด้านแบรนด์วินด์เซอร์ โดย นายอภิชาติ พรวรนันท์ ผู้จัดการฝ่ายขายโครงการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC กล่าวว่า “วินด์เซอร์ มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนในงานที่พักอาศัย ด้วยการพัฒนาวัสดุประตูหน้าต่างไวนิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ “WINDSOR for Sustainability” โดยได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (CFP) และฉลากลดโลกร้อน (CFR) ในผลิตภัณฑ์กลุ่มประตูหน้าต่างไวนิลเป็นรายแรกในประเทศไทย รวมทั้งการรับรองจาก SCG Green Choice ทั้งนี้ วินด์เซอร์มีกระบวนการผลิตประตูหน้าต่างไวนิล ในรูปแบบ “Pre-cut” เอกลักษณ์พิเศษเฉพาะในแบรนด์วินด์เซอร์ ทำให้ไม่เกิดเศษเหลือในการประกอบ (Zero Waste) ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการใช้พลังงานที่ลดลง โดยทุก ๆ การใช้ประตูหน้าต่างไวนิลวินด์เซอร์ในบ้าน 1 หลัง สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 39 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ (kgCO2eq) เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 5 ต้น* เมื่อคิดรวมพื้นที่ประตูและหน้าต่างของโครงการแสนสิริกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 36,300 กิโลกรัม คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2eq) หรือการปลูกต้นไม้กว่า 4,220 ต้น*”
“นอกเหนือจากการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว วินด์เซอร์ยังมีคุณสมบัติ “Ultimate Protection” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อปกป้องบ้านและผู้อยู่อาศัยจากสิ่งรบกวน ตอบโจทย์วิถีชีวิตทั้งในแง่ฟังก์ชันและดีไซน์ โดยให้บ้าน “เงียบกว่า” การใช้บานอลูมิเนียมทั่วไป 40% (ลดทอนเสียงรบกวนจากภายนอกสู่ภายในบ้านได้ถึง 32 เดซิเบล) “เย็นกว่า” ด้วยประสิทธิภาพการป้องกันความร้อน ประหยัดค่าไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 9,144 บาท/ปี** “ปลอดฝุ่นกว่า” ป้องกันมลภาวะและฝุ่น PM 2.5 จากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้ถึง 3 เท่า และ “มั่นใจกว่า” ป้องกันการรั่วซึมของน้ำและอากาศ ต้านทานแรงลมได้ดี ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน จึงมั่นใจว่าบ้านอยู่สบาย พร้อมรองรับทั้งงานบ้านพักอาศัยและงานอาคารสูง” นายอภิชาติ กล่าวทิ้งท้าย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 182 ครั้ง