มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 340 ครั้ง
“สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวก 7 คน นอนคุกในกรุงเทพฯ คืนที่ 2 กินอิ่ม นอนหลับ ขณะที่เรือนจำจัดเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด กันสร้างอิทธิพล พร้อมจัดนักจิตวิทยาพูดคุยสร้างความผ่อนคลาย ด้าน ผอ.กกต.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม สจ.กอล์ฟ กับพวกรวม 10 คน

สำหรับคดีของนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้ายตำรวจตระเวนชายแดน ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยคดีนี้มีการโอนย้ายให้ทางตำรวจกองปราบปรามดำเนินการ และได้ส่งตัว สจ.กอล์ฟ พร้อมพวกทั้ง 7 ราย จากเรือนจำจังหวัดสงขลา มาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อความสะดวกในการดำเนินคดี

ล่าสุด วันนี้ (1 มิ.ย.68) ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตำรวจกองปราบปราบ จัดชุดหนุมานคุ้มกันตัว สจ.กอล์ฟ กับพวกรวม 7 คน จากเรือนจำจังหวัดสงขลา ย้ายมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา โดยเดินทางมาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ช่วงค่ำวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดำเนินการรับตัวนำเข้าสู่แดนแรกรับ และเข้าสู่กระบวนการแยกกักโรค ทุกคนให้ความร่วมมือดี
โดยผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ,นายพงษ์เทพ วาดวิไล หรือหนึ่ง ฟรีด้อม ,นายหนุ่มเสก ทองศรี ,นายรพีพงศ์ สวัสดิ์ชูแก้ว ,นายจักรพงษ์ เทพชุม ,นายศศรัณย์ สง่าบ้านโคก และ นายสรายุทธ หนูชัยแก้ว

สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องขังทั้งหมด รับประทานอาหาร และหลับได้ตามปกติ ส่วนในการดูแลเรื่องการสร้างอิทธิพลนั้น เป็นเรื่องที่เรือนจำให้ความสำคัญกับผู้ต้องขังทุกคนอยู่แล้ว จึงได้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และมีผู้ช่วยงานที่ไว้ใจได้เป็นพี่เลี้ยงสอดส่องดูแล พร้อมจัดนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์พูดคุยให้คำแนะนำ เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ส่วนเรื่องของการเยี่ยมนั้น ญาติสามารถเยี่ยมที่เรือนจำได้เมื่อกักตัวครบ 5 วันแล้ว
ส่วนทางด้านคดี ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี ผอ.กกต.สงขลา ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ให้ดำเนินคดีอาญาผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมจำนวน 10 คน เนื่องจากกระทำการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรืออนุกรรมการซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้ง โดยใช้กำลังประทุษร้ายอันเป็นความผิดมาตรา 66 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 และกระทำการฝ่าฝืนระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 155 ประกอบมาตรา 368 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และเป็นการเข้าไปในสถานที่ราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยร่วมกันกระทำความผิดกันตั้งแต่สองคนขั้นไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364 ประกอบมาตรา 365(2) อีกด้วย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 340 ครั้ง