มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 224 ครั้ง
วันนี้ (24 เม.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) มอบหมายให้ นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการสนับสนุนด้านการกีฬาแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถาน ระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว พร้อมด้วย นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมลงนาม ซึ่งในพิธีมีคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ คณะผู้บริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วม

กระทรวงยุติธรรม มีนโยบายในการบริหารและขับเคลื่อนกระทรวงยุติธรรมเข้าสู่ยุค “ความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความยุติธรรมนำประเทศ” ด้านการพัฒนาพฤตินิสัย โดยกรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญในการส่งเสริมทักษะ ประสบการณ์ด้านกีฬาให้แก่ผู้ต้องขังขณะต้องโทษในเรือนจำอย่างเหมาะสม และสามารถนำความรู้ทักษะด้านกีฬาที่ได้รับต่อยอดไปใช้ ในการประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษได้ เป็นการคืนคนดีมีคุณภาพสู่สังคมอย่างยั่งยืน โดยได้รับความร่วมมือจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมกันสนับสนุน และส่งเสริมด้านการกีฬาให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการบริหารงานราชทัณฑ์ “8 มิติ ยกระดับการเปลี่ยนแปลง” เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นการพัฒนา และส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้ต้องขังขณะต้องโทษในเรือนจำ ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพอนามัย ของผู้ต้องขังให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนด้านการแก้ไขฟื้นฟูและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังทางด้านกีฬาทั้งด้านกีฬามวยให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และกีฬาอาชีพประเภทอื่น ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล

และในวันนี้ ยังได้นำผู้ต้องขังจากทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ซึ่งเป็นเรือนจำต้นแบบเฉพาะทางด้านกีฬา ออกมาแสดง คีตะมวยไทย ในชื่อชุดการแสดง “อิฐเก่าเล่าตำนาน” ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้นำทักษะความรู้ด้านการกีฬามวยไทย ที่ถือเป็นการสร้าง Soft Power เอกลักษณ์ความเป็นไทยให้ประชาชน และสังคมภายนอกได้รับทราบ ตลอดจน ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขังทั่วประเทศ ได้มีประสบการณ์ด้านกีฬามวยและกีฬาประเภทอื่น ๆ เกิดการพัฒนาทักษะและชั้นเชิง การมีระเบียบวินัย ตลอดจนให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษสามารถนำความรู้ ทักษะ ด้านกีฬาไปใช้ประกอบอาชีพได้จริงมีภูมิคุ้มกัน และทัศนคติที่ดีต่อการดำรงตนอย่างสุจริตชน ไม่คิดที่จะหวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก และเพื่อการพัฒนาสุขภาวะให้กับบุคลากรกรมราชทัณฑ์ อันจะนำมาซึ่งการถ่ายทอดความรู้ ทักษะด้านกีฬาให้กับผู้ต้องขัง และพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย



มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 224 ครั้ง