มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 142 ครั้ง
วาระ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน “อลงกรณ์” ปาฐกถามั่นใจความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทย-จีน มีแนวโน้มสดใส
นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์ (FKII Thailand) และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้รับเชิญเป็นองค์ปาฐกถาและร่วมเป็นประธานเปิดการประชุมนักธุรกิจและประกาศเกียรติคุณกิจการและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นในวาระเฉลิมฉลอง 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักรไทย จัดโดย สมาคมการค้าไทย-จีนและเศรษฐกิจเอเชีย ร่วมกับ องค์กรปานามา แปซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กโปซิชั่น (Panama Pacific International Exposition) ที่โรงแรมเดอะแกรนด์ โฟวิงก์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

โดย นายอลงกรณ์ ปาฐกถาแสดงความมั่นใจว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทย-จีน มีแนวโน้มสดใส พร้อมกับโชว์ธนบัตรฉบับแรกของไทยที่นำออกใช้ในปี 2445 (ค.ศ 1902) หรือเมื่อ 123 ปีก่อน ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีภาษาจีนปรากฏในธนบัตรดังกล่าว ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้คนจีนสามารถทำมาหากินทำการค้าธุรกิจในประเทศไทย (สยาม) ต่อมาอีก 100 ปี รัฐบาลไทยจึงให้จัดพิมพ์ธนบัตรดังกล่าว โดยพิมพ์เพิ่มด้านหลังเป็นพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 และ รัชกาลที่ 9 เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งในรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสถาปนาความสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักรไทย อย่างเป็นทางการ ในปี พ.ศ.2518 ซึ่งได้รับความสนใจจากที่ประชุมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังกล่าวยกย่อง ม.ล.สุภาพ ปราโมช ว่าเป็น 1 ในคนไทย ที่ทุ่มเทสานสัมพันธ์ไทย-จีน โดยเดินทางไปเยือนแผ่นดินใหญ่จีนถึง 157 ครั้ง นับแต่ร่วมคณะม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ไปสถาปนาความสัมพันธ์ที่กรุงปักกิ่งในปี พ.ศ.2518

โดย นายอลงกรณ์ กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า “วันนี้ เราทุกคนมารวมกัน ณ ที่แห่งนี้ ก่อนอื่น ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขในปีใหม่ และในปีนี้ เราร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันทรงคุณค่า และร่วมกันหารือถึงโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การค้าระหว่างจีนและไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มูลค่าการค้าทวิภาคีทำสถิติสูงสุดใหม่ การแลกเปลี่ยนทางการค้าในภาคสินค้าเกษตรผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลและไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์เคมีมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ผลไม้คุณภาพสูงและข้าวของไทยเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน ในขณะที่เครื่องจักรกลและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนก็มีบทบาทสำคัญในตลาดไทยเช่นกัน

ภายใต้การผลักดันของนโยบาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของรัฐบาลจีน การเชื่อมโยงระหว่างจีนและไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย ได้สร้างช่องทางที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับการค้าระหว่างกัน ในขณะเดียวกัน การแลกเปลี่ยนในด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรมและการศึกษาของทั้งสองฝ่ายก็มีการพัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน เราจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน สนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อร่วมกันขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
เมื่อมองไปสู่อนาคต โอกาสในการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทยมีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เราจะส่งเสริมมิตรภาพดั้งเดิม เสริมสร้างความเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ และแสวงหาโอกาสความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานทดแทน เพื่อผลักดันความร่วมมือในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและไทยให้บรรลุผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้นไม้แห่งมิตรภาพจีน-ไทยเจริญงอกงามยิ่งขึ้น นำมาซึ่งความสุขและความเจริญให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ และมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น”
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 142 ครั้ง