มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 861 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 เวลา 09.30 น. นายกลยุทธ พานาสันต์ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอธัญบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิด ประจำปี 2566 เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ “สานสายใยรัก เฉลิมพระเกียรติ 91 พรรษา” ระหว่างวันที่ 21 – 25 สิงหาคม 2566 ตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ต้องขังได้พบครอบครัว โดยมี นายสายัญ หมื่นพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมฯ นายศรัทธา ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาฯ นายเสน่ห์ สงคง ผู้อำนวยการส่วนสวัสดิการฯ นายอนุสรณ์ เพิ่มผล หัวหน้าฝ่ายทัณฑปฎิบัติ และนายประเสริฐ กองทิพย์ หัวหน้าฝ่ายการศึกษาฯ ร่วมพิธี ณ ลานอเนกประสงค์แดน 1 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เรือนจำฝ่ายต่างๆ คอยอำนวยสะดวกให้ญาติที่มาเยี่ยม ณ จุดลงทะเบียน เรือนจำอำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี
นายกลยุทธ พานาสันต์ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอธัญบุรี กล่าวว่า “ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทานโครงการอันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันครอบครัวหลากหลายโครงการ ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรไทยทุกคน ตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของสังคมและวัฒนธรรมไทย ที่จะช่วยปลูกฝังขัดเกลาหล่อหลอมให้สมาชิกในสังคม ก่อเกิดคุณลักษณะที่ดีที่แสดงถึงความเป็นคนไทย คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความมีจิตใจ โอบอ้อมอารี มีความกตัญญูรู้คุณ และมีจิตสำนึกรักในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อย่างลึกซึ้งจริงใจ
เรือนจำอำเภอธัญบุรี มีสมาชิกภายในเรือนจำ มากกว่า 1,700 คน เปรียบเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ ที่ต้องดูแลทั้งเรื่องการกินอยู่หลับนอน และเรื่องการอบรมบ่มนิสัย ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญ เพื่อให้การอยู่ร่วมกันของสมาชิกทุกคนเป็นไปอย่างราบรื่น ในขณะเดียวกันก็ได้รับการขัดเกลาอุปนิสัย ให้เกิดการพัฒนาพฤตินิสัยไปด้วย ซึ่งการที่เรือนจำมีสมาชิกมาจากครอบครัวที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีกฎ กติกา มารยาท ในการปฏิบัติร่วมกัน ซึ่งบางคนอาจไม่คุ้นเคย หรือมีความอดทนอดกลั้นไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการกระทำผิดขึ้นได้ แต่ส่วนใหญ่ก็สามารถปฏิบัติตนอยู่ในกฎระเบียบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
การที่เรือนจำฯ ได้จัดกิจกรรมพบญาติใกล้ชิดขึ้นในวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อน้อมสนองแนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง ที่ทรงมุ่งหวังให้ครอบครัวไทย ได้อยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่นเข้มแข็ง อีกจุดมุ่งหมายหนึ่ง ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย ได้มีโอกาสพบหน้าสมาชิกในครอบครัว ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกำหลังใจ ให้เห็นถึงผลของการปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย
กิจกรรมพบญาติใกล้ชิดในครั้งนี้ จะบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ และหวังว่าพลังความรักของครอบครัวจะช่วย “สานสายใยรัก” เสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ ให้เกิดความมุ่งมั่น ที่จะดำรงตนอยู่ในกรอบของกฎหมายและคุณธรรมจริยธรรมของสังคม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายชีวิตที่สำคัญ คือ การได้กลับไปอยู่พร้อมหน้ากันของครอบครัว ขอให้ทุกท่านได้ใช้โอกาสนี้ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง และร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว ใช้ความรัก ความอบอุ่น และความปรารถนาดี สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ ไม่ให้แรงกระตุ้นที่ผิดใดๆ มาทำให้ต้องผลัดพรากจากกันอีก”
นายกลยุทธ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ ได้จัดกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เปิดให้เยี่ยมญาติใกล้ชิดมาหลายปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว สามารถรับประทานอาหารร่วมกันภายในเรือนจำ และยังสามารถสัมผัสกันโดยไม่มีกำแพงกั้นเหมือนในห้องเยี่ยมญาติปกติ ถือเป็นกิจกรรมที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างผู้ต้องขังกับครอบครัวหรือคนที่จะเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาเหล่านี้ ได้ปรับตนเป็นคนดีของสังคมอีกครั้ง เมื่อได้รับการปล่อยตัวพ้นโทษ
โดยทางเรือนจำอำเภอธัญบุรี จึงได้กำหนดจัดงานวันเยี่ยมญาติแบบใกล้ชิด ขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 ส.ค.66 นี้ เป็นเวลา 5 วัน โดยจะอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมนักโทษแบบใกล้ชิดได้วันละ 100 คน สามารถเข้าสวมกอดและนั่งพูดคุยกินข้าวกันได้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นนโยบายของกรมราชทัณฑ์ที่ต้องการให้ผู้ต้องขังและญาติได้พบกันแบบใกล้ชิด และมีกำลังใจที่จะกลับตัวเป็นคนดีเพื่อกลับคืนสู่สังคมในอนาคตต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพิธีเปิดกิจกรรมแล้ว ผู้บัญชาการเรือนจำ ได้เดินให้กำลังใจญาติและผู้ต้องขัง ทั้งนี้ญาติและผู้ต้องขังต่างดีใจและขอขอบคุณ เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อให้ครอบครัวได้พบเจอกันแบบใกล้ชิด
ขณะที่ญาติที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมพบญาติใกล้ชิด เปิดเผยว่า ดีใจมากที่ทางเรือนจำจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นมาเพราะจะได้พบหน้ากันเป็นครอบครัวได้นำลูกมาหาพ่อ แม่ได้พบลูก อยากให้ทางเรือนจำจัดกิจกรรมแบบนี้ทุกเดือนเลยเพราะได้นั่งคุยได้กินข่าวร่วมกัน ไม่ต้องคุยกันผ่านลูกกรงเวลามาเยี่ยม พร้อมขอบคุณทางเรือนจำที่มีโครงการดีๆ แบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า โดยวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดโอกาสให้ญาติเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังแบบใกล้ชิดภายในเรือนจำ ซึ่งมีญาติมาติดต่อขอเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังเป็นไปอย่างคึก มีทั้งพ่อแม่ พี่น้อง ลูกเมีย โดยทางเรือนจำมีมาตรการคุมเข้มจัดเจ้าหน้าที่คัดกรองตรวจโควิด และมาตราการตรวจค้น สิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำฯ ทุกอย่าง หรือแม้กระทั่ง สิ่งของมีค่า อาทิ แก้วแหวน เงินทอง ตุ้มหู สร้อย เข็มขัด นาฬิกา ที่มัดหรือหนีบผม และเครื่องประดับทุกอย่าง ให้เก็บไว้ในตู้ล็อคเกอร์นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมรองเท้าแตะไว้ให้เปลี่ยนอีกด้วย เพื่อความเป็นระเบียบง่ายกับการตรวจค้น และป้องกันการนำสิ่งของต้องเข้าเรือนจำฯ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอีกด้วย
โดยทันทีที่ปล่อยให้ญาติเข้าไปเยี่ยมถึงตัวผู้ต้องขัง แต่ละคนทั้งผู้ต้องขังและญาติๆ ต่างวิ่งเข้าโผกอดกันร่ำไห้กันระงมด้วยความดีใจที่ได้เจอกัน และมีบางรายถึงกับก้มกราบเท้าพ่อและแม่ของตนเองที่เข้าไปเยี่ยมด้วยความปลาบปลื้มดีใจ ก่อนที่พากันเดินเข้าไปนั่งพูดคุยและนั่งกินอาหารร่วมกันที่ทางเรือนจำจัดไว้เป็นอย่างคึกคัก
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 861 ครั้ง