มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 868 ครั้ง
นายธีรพล ขุนเมือง อดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทรส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ สื่อสารและประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า จากการที่สภามหาวิทยาลัย เห็นชอบ แผนการพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พ.ศ. 2566 – 2570 โดยมีศาสตราจารย์ประยุทธ์ อัครเอกฒาลิน เป็นประธานกรรมการ จัดทำ ร่วมกับ ผู้ทรงคุณวุฒิ และทีมงานของ มทรส. ซึ่งแผนฯดังกล่าวมุ่งเน้นผลิตกำลังคน เพื่อตอบสนองความต้องการกำลังแรงงานของประเทศด้านวิชาชีพและเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และการเป็นผู้ประกอบการ ทั้งระดับปริญญา (Degree) และระดับประกาศนียบัตร (Non-degree) โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นเป็นตัวนำไปสู่การพัฒนากำลังคนด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่และหุ่นยนต์เป็นตัวนำไปสู่การพัฒนากำลังคน ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่และหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม และเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะการแปรรูปผลิตผลเกษตรแบบประณีตและแม่นยำเป็นเป็นตัวนำไปสู่การพัฒนากำลังคนด้านอุตสาหกรรมเกษตร

ทั้งนี้จุดเน้นของแผนฯนี้ เพื่อให้นักศึกษาได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะ Re-skill/Up-skill/New-skill โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้เรียนรู้ จากประสบการณ์ทำงานจริงจากการเรียนการสอน ในรูปแบบ “สหกิจศึกษา” ที่เข้มข้น ใน 3 รูปแบบ คือ 1. แบบแยก เป็นการเรียนการสอนแบบสหกิจที่เรียนภาคทฤษฎีในมหาวิทยาลัย และภาคปฏิบัติในสถานประกอบการประมาณ 4 เดือน 2. แบบคู่ขนานเป็นการศึกษาทั้งในมหาวิทยาลัย และในสถานประกอบการควบคู่กันไป และ 3. แบบผสมผสาน เป็นการเรียนภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติทั้งในมหาวิทยาลัยและสถานประกอบการไปพร้อมกันตามช่วงเวลาที่กำหนด

นายธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลผลิตที่คาดหวัง ภายใต้แผนพัฒนากำลังคนฯนี้จะสามารถผลิตบัณฑิต ที่เป็นคนดี มีความรู้ รักสู้งาน ด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ด้านหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม ด้านละ 10,000 คน และด้านเกษตรอัจฉริยะอีกกว่า 500 คน ซึ่งนอกจากบัณฑิตที่จบมีตลาดรองรับมีงานทำอย่างมั่นคงแล้ว จะสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้มีศักยภาพ ในการแข่งขันกับนานาประเทศได้มากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคม เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ก้าวพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วต่อไป

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 868 ครั้ง