มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2367 ครั้ง
“อลงกรณ์” ชี้เลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราชเขต 3 พิสูจน์ 3 ศรัทธา ย้ำประชาธิปัตย์ยึดกติกาประชาธิปไตยสุจริตชูผลงานยุคทำได้ไว ทำได้จริง มั่นใจรัฐบาลรักษาเสียง ส.ส.ได้
วันนี้ (7 ก.พ.64) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า เลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครศรีธรรมราชเขต 3 จะเป็นการพิสูจน์ 3 ศรัทธาของประชาชน คือ ศรัทธาต่อรัฐบาล ศรัทธาต่อพรรค และศรัทธาต่อผู้สมัคร ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะยังสามารถรักษาเสียงส.ส.ได้เช่นเดิม เมื่อพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 และวิเคราะห์จากผลการเลือกตั้งส.ส.ของนครศรีธรรมราชเขต 3 ผู้สมัครในสังกัดรัฐบาลมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 1 ถึง 3 โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. คือ นายเทพไท เสนพงศ์
สำหรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์จะยึดกติกาการเลือกตั้งบนแนวทางสุจริตยุติธรรม มุ่งนำเสนอวิสัยทัศน์นโยบายและผลงานทั้งระดับชาติและจังหวัดในยุคทำได้ไวทำได้จริง ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ ตนได้นัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ครั้งนี้ โดยเน้นการเข้าถึงประชาชนทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ๆ และผลงานพรรคจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เช่น
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น โครงข่ายถนนสี่เลน, รถไฟ 4 รางทางคู่ทั่วประเทศ การส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาค การพัฒนาสนามบิน และท่าเรือในภูมิภาค การขยายโครงข่ายไอซีที โครงการพัฒนาเซาเทิร์นซีบอร์ดสู่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor) และระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล
- การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ยกระดับคุณภาพชีวิตและกระจายโอกาสลดเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการมหาวิทยาลัยในภูมิภาคโครงการนมโรงเรียน, โครงการอาหารกลางวันนักเรียน, กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), การเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ, โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ, เริ่มต้นค่าตอบแทน อสม. เดือนละ 600 บาท, ยกฐานะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.), การพัฒนาฝีมือแรงงานและคุณวุฒิวิชาชีพ, การส่งเสริมการออม, การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ (LGBT)
- การพัฒนาท้องถิ่นชนบท และพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากโดยนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จากสุขาภิบาลเป็นเทศบาลและเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาขิกสภาโดยตรงจากประชาชน
- การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่นเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจบนฐานพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการเอทานอล
- การลดความเหลื่อมล้ำ โดยกระจายการถือครองที่ดินให้เกษตรกรและชุมชนโดยมาตรการโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน และการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร
- การปฏิรูปภาคเกษตรด้วยโครงการประกันรายได้เกษตรกร การจัดตั้งและขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัด เพื่ออัพเกรดภาคเกษตรด้วยวิทยาการและเทคโนโลยี โครงการประมงชุมชน และชลประทานชุมชนและการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรายย่อยโดยกลไกกองทุน กฟก. ฯลฯ
“สำหรับวิสัยทัศน์ จังหวัดนครศรีธรรมราช คือนครแห่งอารยธรรม น่าอยู่ น่าเที่ยว การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยืน ซึ่งได้พัฒนาต่อเนื่องมีศักยภาพพร้อมทุกด้าน ที่จะต่อยอดให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาของภาคใต้ตอนกลาง ทั้งด้านการศึกษา การค้า การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และเกษตรอุตสาหกรรม (Agroindustry) เช่น โครงการนิคมอุตสาหกรรมยาง (Rubber Valley) โครงการศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีเกษตรอาหารและผลไม้ โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมที่ทีบทบาทสำคัญยิ่ง อนาคตของนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งเดียวกับอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด และเป็นอีกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์จะขอโอกาสในการทำงาน เพื่อสร้างอนาคตร่วมกันกับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชด้วยวิสัยทัศน์ และการทำงานแนวใหม่ โดยคนรุ่นใหม่ คือ นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้” นายอลงกรณ์ กล่าวในที่สุด
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2367 ครั้ง